Car รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second HandCar รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second HandCar รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second HandCar รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second HandCar รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second Hand

Thursday, September 29, 2011

New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท

วันนี้รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้เปิดตัวในประเทศไทยแล้ว ด้วยรูปลักษณ์ใหม่สไตล์สปอร์ตโดดเด่นทันสมัยมาพร้อมกับ กระจังหน้าใหม่ กันชน หน้า-หลัง ใหม่ ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยใหม่ดีไซน์สปอร์ต การออกแบบทั้งภายในห้องโดยสารและรูปลักษณ์ภายนอกเพิ่มความรู้สึกสปอร์ต ห้องโดยสารและที่เก็บสัมภาระท้ายรถกว้างขวางและสะดวกสบายในการขับขี่

- การออกแบบใหม่ ทันสมัยและสง่างาม พร้อมอุปกรณ์ใหม่ เพิ่มความสปอร์ตสะดุดตา ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและให้ความสะดวกสบายในการขับขี่
- ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 559,000 บาท ถึง 704,000 บาท

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นใหม่คันแรกของประเทศไทยที่เข้าหลักเกณฑ์นโยบายการรับเงินช่วยเหลือรถยนต์คันแรกของรัฐบาลได้สูงสุด 100,000 บาท

ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นล่าสุดนี้ติดตั้งเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดและระบบควบคุมการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ DBW (Drive by Wire) โดยมีให้เลือก 3 รุ่นหลัก (S, V และ SV) ในราคา 559,000 บาทสำหรับรุ่นเริ่มต้น S ไปจนถึง 704,000 บาทในรุ่นท็อป SV และสำหรับรุ่น S เท่านั้นที่มีระบบเกียร์แบบธรรมดาและอัตโนมัติ

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสามารถรองรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างสบาย ห้องเก็บสัมภาระท้ายมีความจุถึง 506 ลิตร กว้างขวางเพียงพอในการบรรทุกสิ่งของที่มีขนาดใหญ่และสัมภาระรูปทรงต่างๆ ได้ตามความต้องการ
New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท
ฮอนด้า ซิตี้ ให้การยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยมด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท อิสระพร้อมเหล็กกันโคลงและระบบกันสะเทือนด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม แบบ H-Shape พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมบังคับรถได้ดีขึ้นและให้ความนุ่มนวลที่มั่นคงในทุกสภาพถนน

นอกจากนี้ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ยังได้ติดตั้งถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งในด้านความปลอดภัยให้กับกลุ่มรถขนาด ซับ-คอมแพคท์

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ เพื่อให้ตระหนักถึงการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง คือ ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ECO Indicator ที่จะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อขับขี่ในเกณฑ์ประหยัดน้ำมันทำให้ทราบถึงรูปแบบการขับขี่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

รุ่นท็อป SV มาพร้อมกับภายในห้องโดยสารสีดำ ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ ช่องเก็บของใต้เบาะด้านหลัง เบาะนั่งด้านหลังปรับพับ 60:40 พนักพิงศีรษะด้านหลังปรับระดับสูง-ต่ำได้ พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางใกล้-ไกลและสูง-ต่ำ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) มาตรวัดเรืองแสง Blue Light มาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง คอนโซลด้านหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม กระจกไฟฟ้า ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตซ์ควบคุมด้านคนขับ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับไฟฟ้า พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง พนักเท้าแขนด้านหน้า เครื่องเสียงโมดูล Advanced Audio สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB และช่อง AUX สำหรับต่ออุปกรณ์เสริม ไฟตัดหมอกด้านหน้า ปลายท่อไอเสียโครเมียม ล้ออัลลอย 16 นิ้ว ระบบล็อกประตูอัตโนมัติสัมพันธ์กับความเร็วรถ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณกันขโมย กุญแจรีโมท กระจกไฟฟ้านิรภัยด้านคนขับและไฟเบรกดวงที่สาม สำหรับรุ่น SV จำหน่ายในราคา 704,000 บาท

รุ่น V มาพร้อมกับภายในห้องโดยสารสีเบจ ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ ช่องเก็บของใต้เบาะด้านหลัง พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางใกล้-ไกลและสูง-ต่ำ มาตรวัดเรืองแสง Blue Light มาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง คอนโซลด้านหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม กระจกไฟฟ้า ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตซ์ควบคุมด้านคนขับ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า เครื่องเสียงโมดูล Advanced Audio สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB และช่อง AUX สำหรับต่ออุปกรณ์เสริม ล้ออัลลอย 15 นิ้ว ระบบล็อกประตูอัตโนมัติสัมพันธ์กับความเร็วรถ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณกันขโมย กุญแจรีโมท กระจกไฟฟ้านิรภัยด้านคนขับและไฟเบรกดวงที่สาม สำหรับรุ่น V จำหน่ายในราคา 646,000 บาท

ส่วนในรุ่น S ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น มีระบบเกียร์ให้เลือกทั้งแบบระบบเกียร์ธรรมดาและระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ภายในห้องโดยสารสีเบจ เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางใกล้-ไกลและสูง-ต่ำ มาตรวัดเรืองแสงแบบสปอร์ต มาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง คอนโซลตกแต่งเมทัลลิก กระจกไฟฟ้า ระบบเซ็นทรัลล็อก กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า เครื่องเสียงโมดูล Advanced Audio ช่องเชื่อมต่อ USB และช่อง AUX สำหรับต่ออุปกรณ์เสริม ฝาครอบล้อ 15 นิ้ว ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณกันขโมย กุญแจรีโมท กระจกไฟฟ้านิรภัยด้านคนขับและไฟเบรกดวงที่สาม ในรุ่นเกียร์ธรรมดาจำหน่ายในราคา 559,000 บาท และ 599,000 บาท สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท
มีอะไรใหม่ในฮอนด้า ซิตี้

- รูปลักษณ์สปอร์ตมีสไตล์: กระจังหน้าใหม่ กันชนหน้า-หลัง ใหม่ ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยใหม่ดีไซน์สปอร์ต ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ตให้มากยิ่งขึ้น
- การออกแบบที่อินเทรนด์: การออกแบบทั้งภายในและภายนอกที่ช่วยให้ซิตี้ใหม่มีความสปอร์ตและสง่างามยิ่งขึ้น พร้อมให้ประสบการณ์ในการขับขี่ที่จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับเจ้าของรถ คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยโครเมี่ยม เพิ่มความทันสมัยให้แก่ห้องโดยสาร
- ถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบป้องกันล้อล็อก ABS: ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยทั้งในเชิงปกป้องและแก้ไข อาทิ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ดิสก์เบรก ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pretensioner Seat Belt) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในซิตี้ใหม่ทุกรุ่น
- มาตรวัดเรืองแสง Blue Light: เพิ่มความล้ำสมัยให้แก่ห้องโดยสาร อีกทั้งยังให้ความโดดเด่น ง่ายต่อการมองเห็น
- ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ECO Indicator: จะสว่างขึ้นเมื่อขับขี่ในเกณฑ์ประหยัดน้ำมัน ทำให้ทราบถึงรูปแบบการขับขี่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
- เบาะนั่งลายใหม่ดีไซน์สปอร์ต: ผู้โดยสารสามารถสัมผัสถึงความกว้างขวางสะดวกสบายภายในห้องโดยสารด้วยเบาะนั่งที่ผลิตจากผ้าลายใหม่ดีไซน์สปอร์ต
- 2 สีใหม่: สีแดงคาร์เนเลียน (มุก) และสีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก) เป็นสีใหม่้ให้เลือกนอกเหนือไปจากสีขาวทาฟเฟต้า สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีเทาโพสิชเมทัล (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีให้เลือก 6 สีได้แก่ สีแดงคาร์เนเลียน (มุก) และสีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก) เป็น 2 สีใหม่ นอกเหนือไปจากสีขาวทาฟเฟต้า สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีเทาโพลิชเมทัล(เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก) ขอเชิญสัมผัสและทดลองขับได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

รุ่นและราคาของ New Honda City รุ่นปี 2012

Honda City รุ่น S
เกียร์ธรรมดา 559,000 บาท
เกียร์อัตโนมัติ 599,000 บาท

Honda City รุ่น V เกียร์อัตโนมัติ 646,000 บาท

Honda City รุ่น SV เกียร์อัตโนมัติ 704,000 บาท

New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท
http://www.autospinn.com/2011/09/ราคา-new-honda-city-2012-ฮอนด้า-ซิตี้-ตัวใ/

Wednesday, September 21, 2011

วิธีเลือกซื้อ รถมือสอง รถบ้าน Secondhand Car

วิธีเลือกซื้อ รถมือสอง รถบ้าน Secondhand Car
วิธีเลือกซื้อ รถมือสอง รถบ้าน Secondhand Car เมื่อคุณคิดจะซื้อรถมือสอง ข้อดีของรถมือสอง คือ ราคาถูก แต่ท่านควรตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด เพราะรถที่ถูกใช้งานมาแล้วล้วนมีความเสี่ยงต่อสภาพความสึกเหรอของเครื่องยนต์ หากจะซื้อรถมือสองควรตรวจสอบอะไรบ้าง

1. รถมือสอง สุมดประวัติประจำรถ
มักไม่ค่อยมี เพราะเจ้าของรถไม่พิถีพิถัน แต่ถ้ามีก็ต้องถือว่ายอดเยี่ยม เพราะสมุดประวัติประจำรถทำให้รู้ว่าเขาตรวจซ่อมอะไรมาบ้าง ตรวจทุกระยะประจำหรือเปล่า

2. เจ้าของรถมือสอง
คุณควรดูเจ้าของรถคันเดิมว่าเขาเป็นใครใช้รถอย่างไรดูแลรถหรือไม่ มีคนกล่าวว่า ไม่ควรซื้อรถต่อจากวัยรุ่น ผู้หญิง และคนชรา เพราะว่าทั้งสามประเภทนี้ ใช้รถอย่างเดียวไม่ค่อยดูแลรถที่ใช้อยู่

3. รถมือสอง มือที่เท่าไหร่
ก็คือรถคันนี้มีคนเป็นเจ้าของมามากน้อยเพียงใด ถ้าผ่านมาแล้วหลายมือก็ควรไม่ซื้อ เพราะรถอาจจะมีปัญหาได้

4. ตัวเลขระยะทางการใช้รถมือสอง
ในการซื้อรถคุณควรดูเลขตัวไมล์โดยปกติการใช้รถไม่ควรจะมากกว่าสามหมื่นกิโลเมตรต่อปี หากมากไปกว่านี้ถือว่ามากอาจทำให้เครื่องยนต์ที่ใช้งานหนัก

5. สภาพภายใน รถมือสอง
หมายถีงเบาะนั่ง ระบบไฟฟ้าต่างๆ ต้องใช้ได้ อย่างไรก็ตาม สภาพดีมาก ดีน้อย ย่อมแล้วแต่ผู้ใช้และการดูแลรักษา

6. สภาพภายนอก รถมือสอง
ควรดูสภาพตัวถังมีผุพัง สีถลอกปอกเปิก กันชนบุบ ตัวถังงอ ประตูตก บ้างหรือไม่

7. รถมือสอง ทำสีมาหรือเปล่า
รถที่ต้องทำสีใหม่ คือ รถที่เก่ามากอายุควรจะเกิน 15 ปีขี้นไป หากทำสีก่อนหน้านั้นก็เท่ากับว่ารถไม่ได้รับการดูแล ในการทดสอบว่าไปทำสีมาหรือเปล่า ก็ลองเคาะเบาๆ ด้วยสันมือ ถ้าเสียงโปร่งก็สีเดิม ถ้าเสียงทึบบ้างโปร่งบ้าง ก็ทำบางส่วน ถ้าทึบหมดก็ทำทั้งคันรถทำสีใหม่สีจะไม่ทน อาจซีด หรือด้านหรือโปร่ง ภายในสองสามปีเป็นอย่างมาก

8. ประวัติรถมือสอง
หากสามารถรู้ประวัติการใช้รถของเจ้าของเดิมมาบ้างก็จะดี เพราะจะได้รู้ว่าเจ้าของรถคนเก่าเคยนำรถไปใช้อย่างไร เช่น ไปชนคนตายมาก่อนหรือเปล่า เคยนำรถไปใช้ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือเปล่า เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนน่ากลัวหรือเปล่า ส่งเหล่านี้เราต้องสืบหาเอาเอง

9. รถมือสอง ซื้อรถจากเจ้าของดีกว่าซื้อจากเต้นท์รถหรือพ่อค้าคนกลาง
ถ้าซื้อรถจากพ่อคนกลาง พ่อค้าคนกลางอาจโอนเป็นชื่อของตนเองหรือโอนลอยไว้ พวกนี้จะเอาของดีๆ ออกจากตัวรถก่อนจะขาย ก็ได้ เช่น เครื่องเสียง อุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์ประกอบรถอื่นๆ ที่พอจะนำไปขายแยกได้ ส่วนเต๊นท์รถนั้นก็คือพ่อค้าคนกลางเหมือนกันแต่เจ้าเล่ห์มากกว่า และมักจะขายราคาแพงกว่าท้องตลาดประมาณ 25,000-50,000 บาทต่อคัน เวลาจะซื้อรถคุณควรดูให้มั่นใจเสียก่อน ก่อนจะตัดสินใจซื้อ

10. รถมือสอง หากซื้อรถจากเต้นท์จะต้องนำรถออกทันที
คุณอย่าไปวางเงินแล้ววางใจ ไม่อย่างนั้น เครื่องเสียง ล้อแม็กซ์ ยาง เครื่องยนต์ และอื่น ของคุณอาจจะถูกเปลี่ยนไป โดยที่คุณเองก็อาจทำอะไรก็ไม่ได้

11. รถมือสอง ต้องรีบโอนรถให้เรียบร้อย
ถ้าคุณซื้อรถจากเจ้าของแล้วควรนำรถออกทันที แต่ถ้าซื้อรถจากเต๊นท์จะต้องทำสัญญาซื้อขายให้ดี ขอใบเสร็จรับเงินให้เรียบร้อย ถ้านัดไปโอนทะเบียบภายหลังจะต้องกำหนดเวลาการโอนในสัญญาซื้อขายอย่างแน่นอน

วิธีเลือกซื้อ รถมือสอง รถบ้าน Secondhand Car
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9510000051969

Friday, September 16, 2011

รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car

รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car
อันดับที่ 1 Nissan Navara
นาทีนี้ถ้าถามถึงรถกระบะที่ดีในตลาดทั้งสมรรถนะการบรรทุก การขับขี่ และราคาที่คุ้มค่า Nissan Navara ยังคงเป็นอันดับ 1 ที่เราอยากจะมากล่าวถึงกัน เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร สามารถทำอัตราประหยัดได้ดี มีให้เลือกแทบทุกรุ่น แต่ถ้าไม่ตะลุยอะไรมากบอกตามตรงว่าขับเคลื่อน 2 ล้อ ก็เพียงพอแล้ว ที่จะเอาไว้ใช้งาน ราคาตอนนี้เริ่มต้นที่ 5 แสนกลางๆ กับฟังชั่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่หลายอย่าง ถือว่าต้องจับตามองเลยทีเดียว

อันดับที่ 2 Toyota Vigo
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเราแนะนำเป็นอันดับ 2 ค่ายนี้นั้นมีข้อดีที่ศูนย์บริการที่ครอบคลุม โดยเฉพาะต่างจังหวัดนั้นเยอะมาก ส่วนสมรรถนะก็พอโอเคแต่ถ้าคุณขับรถเร็ว-เร็วมากอาจจะต้องปรับแต่งหน่อยแต่ก็โอเคพอสมควร
รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car
อันดับที่ 3 New! Ford Ranger
คันนี้ต้องอดใจรอสักนี้แต่รับรองว่า งานนี้ดีแน่กับ Ford ranger ใหม่ ที่มาพร้อมความบึกบึน หลากความสามารถ รูปร่างอเมริกันแท้ แต่คงต้องอดใจรอกันสักประมาณเดือนหน้า ที่คร่าวพอมีข้อมูว่า คนไทยจะได้สัมผัสเครื่อง 2.2 พร้อมเกียร์ 6 สปีด

อันดับที่ 4 New! Chevrolet Colorado
อาจจะต้องรอเหมือนกันสำหรับคันนี้ แต่ก็น่าสนใจมาด้วยเรือนร่างใหม่หมดจด พร้อมเครื่องยนต์ Chevrolet แท้ๆ ในตระกูล Duramax ที่จะมาพร้อม 2.5 และ 2.8 ลิตร ส่วนพละกำลังยังไม่สามารถบอกได้อย่างเป้นทางการ แต่กระบใหม่รุ่นนี้คงต้องรอดูราคา ซึ่งน่าจะยังไม่เกิน 1 ล้านบาทแน่นอน
รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car
อันดับที่ 5 Isuzu Dmax
ยังติดอันดับอยุ่ แต่เราอยากแนะนำให้รอรุ่นใหม่มากกว่า ทว่า Isuzu Dmax นั้นมีข่าวคราวน้อยมาก แต่รถรุ่นปัจจุบันก็สามารถตอบสนองโจทย์ได้ดีพอสมควร ราคาก็โอเค ศูนย์บริการก็เยอะเอาการ เราเลยขอเชียร์ แต่ถ้าไม่รีบอดใจรอรุ่นใหม่ดีกว่า

รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car
http://auto.sanook.com/item/2859-เปิด-6-กระบะคุ้มค่า-เมื่อจะเดินตาม-รถคันแรก.html

ขั้นตอนการลดภาษีรถคันแรก Car Tax

ขั้นตอนการลดภาษีรถคันแรก Car Tax ขั้นตอนการลดภาษีรถคันแรก Car Tax

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติการลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 เป็นต้นไป โดยเงื่อนไขจะคืนภาษีหลังจากซื้อ 1 ปี ซึ่งสามารถขอคืนได้จากฐานคำนวนภาษี ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะได้รับเงินคืนไม่เท่ากัน

ล่าสุดกรมสรรพามิตร เปิดให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการคืนภาษีโครงการรถยนต์คันแรกแล้ว ประกอบไปด้วย

- แบบฟอร์ม คำขอคืนเงินและเงื่อนไขสาหรับรถยนต์คันแรก คลิก!
- แบบฟอร์ม หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์คันแรกภายใน 5 ปี คลิก!
- ตัวอย่าง แบบฟอร์ม หนังสือแจ้งผลการได้รับสิทธิจากกรมสรรพสามิต คลิก!

ทั้งนี้หลักเกณฑ์การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก คือ

1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555
2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน
3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)
4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)
5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน
6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี ไปแล้ว (เริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป)

แนวทางการดำเนินงาน

1.ผู้ซื้อรถยนต์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้
-หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี
-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
-สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)
2.กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทาง บกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ
3.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน
4.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครอง รถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่
5.กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป

http://auto.sanook.com/item/2861-รถคันแรก-เปิดให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มแล้ว.html

Wednesday, September 14, 2011

ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก

ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก

ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก ช่วงนี้กระแสนโยบายรถคันแรกมาแรงสุดๆ เราเลยขอเกาะกระแสพาไปชม 6 รถ สุดคุ้มค่ากลุ่มซิตี้คาร์ที่คุณน่าจะเป็นเจ้าของเมื่อมีโอกาสถอยรถ เพื่อขานรับตามนโยบายรถคันแรก

Nissan March (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
เล็กพริกขี้หนูคันนี้คงไม่มีเทียบชั้นในตอนนี้ กับอีโค่คาร์ต้นตำหรับจากค่าย Nissan มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบ แถวเรียงมีเกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ CVT ให้เลือกตามสมัยนิยม รถคันนี้ฟังแล้ว 1.2 ซีซี อาจจะดูน้อย แต่ถ้าคุณรักการขับขี่ที่ทรงสมรรถนะ และทรวดทรงที่ดูคลาสสิคคันนร้ตอบโจทย์ ราคา เริ่มที่ 380,000 สูงสุดอยู่ที่ 542,00 บาท

Honda Jazz (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
เพิ่งปรับโฉมไปใหม่สำหรับรถรุ่นนี้ ที่มาพร้มอราคาที่อาจจะดุดัน แต่เข้าข่ายหมดทุกรุ่นเช่นกัน ด้วยออพชั่นถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรค 4 ล้อ กันชนหน้า- หลัง สปอร์ต น่าจะเป็นที่ถูกใจ โดยเฉพาะใครที่เป็นนักขนตัวยก ลองคิดดุว่า Jazz นั้นให้ความคุ้มค่ามากขนาดไหน (ส่วน City ไว้รอดูตอนปรับโฉม 22 ก.ย. นี้ดีกว่านะ)

Toyota Vios (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
คันนี้ขาดไม่ได้ และล่าสุดเพิ่งมีการปรับลุค ที่สำคัญออกง่าย มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น เข้าหลักเกณฑ์นโยบายรถคันแรกเช่นกัน แถมศูนย์บริการก็เยอะ โปรโมชั่นก็ดี น่าจะโอเค สำหรับคนอยากมีรถ และไม่อยากใช้เงินมาก

Mazda 2 (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
เป้อารักษ์และณเดชย์ มากวักมือไหวๆให้ใช้เจ้ามาสด้า ที่เข้าข่ายโครงการรถคันแรกเช่นกัน เครื่อง 1.5 ลิตรของรถรุ่นนี้บอกตามตรงเลยว่าขับมันส์เกินคำบรรยาย ช่วงล่างเฟิร์มพอตัว แถมมีให้เลือกทั้ง 4 และ 5 ประตู ตามความชอบในราคาที่เท่ากัน แถมประกันภัยชั้น 1 ให้อีกด้วย

Ford fiesta (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
ลืมไม่ได้สำหรับค่ายรถยนต์เจ้านี้ โดยมีรุ่น 1.4 ลิตรเข้าหลักเกณฑ์ ที่แม้อาจจะไม่เห็นเทคโนโลยีชั้นนำแต่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรวดทรงเดียวกันมีให้เลือก ทั้ง 4 และ 5 ประตู แถมช่วงล่างเฟิร์มที่สุดก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี ไม่ควรมองข้ามอีกหนึ่งตัว

Chevrolet Aveo (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
อาจจะเก่าไปบ้าง แต่ถ้าชอบรักความประหยัดแบบสุดๆ ก็ต้องคันนี้เลยกับ Chevrolet Aveo ที่เล็กจิ๋วคันนี้ เบ่งพลังด้วยพลังงานทางเลือก E20 แถมยังมาพร้อมการขับขีสไตล์อเมริกันที่มั่นใจได้ทุกถนน

ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก
http://auto.sanook.com/item/2851-6-ซิตี้คาร์คุ้มค่า-เมื่อคุณจะมีรถ-คันแรก.html

Tuesday, September 13, 2011

รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท

รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท
รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติการลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป

สำหรับเงื่อนไข รถยนต์คันแรก ที่ ครม. มีมติเห็นชอบโดยจะ เริ่ม 16 ก.ย.54 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.55 คืนภาษีหลังจากซื้อ 1 ปี ซึ่งสามารถขอคืนได้จากฐานคำนวนภาษี โดยแต่ละยี่ห้อจะได้รับเงินคืนไม่เท่ากัน

รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท หลักเกณฑ์การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก

1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555
2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน
3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)
4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)
5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน
6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี ไปแล้ว (เริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป)

แนวทางการดำเนินงาน ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท

1. ผู้ซื้อรถยนต์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้
-หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี
-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
-สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)

2. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทาง บกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ

3. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน

4. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครอง รถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่

5. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป

http://news.sanook.com/1054965-เปิดเงื่อนไขรถยนต์คันแรก-มีผล-1-ต.ค.-54.html

Thursday, September 8, 2011

รายการตรวจสภาพรับรถใหม่ ขั้นตอนการตรวจรับรถใหม่ป้ายแดง New Car

รายการตรวจสภาพรับรถใหม่ ขั้นตอนการตรวจรับรถใหม่ป้ายแดง New Car รายการตรวจสภาพรับรถใหม่ ขั้นตอนการตรวจรับรถใหม่ป้ายแดง New Car
1.ตัวถัง
1.1 ดูขอบ, สันข้างรถว่าแนวยังตรงดีอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะระหว่างประตู และตัวถัง
1.2 เปิด/ปิดประตูครบทุกบาน และกระโปรงหน้า-หลัง ได้ดี /ล็อคเด็กประตูหลัง
1.3 มีสนิมบริเวณขอบประตูแต่ละบานหรือไม่
1.4 เห็นรอยสีใหม่พ่นทับสีเก่าในบริเวณขอบประตูหรือไม่ (ถ้ามีขอบยางกันกระแทกลองแง้มดู)

2. กระจก
2.1 กระจกทุกบานขึ้นลงได้สุดหรือไม่ (ถ้าเป็นกระจกไฟฟ้าควรดูเป็นพิเศษ)
2.2 กระจกมีรอยร้าวกกะเทาะหรือไม่อาจจะนําไปสู่การแตกง่ายในอนาคต
2.3 ลวดละลายฝ้ากระจกหลังยังใช้ได้อยู่หรือไม่
2.4 ยางปัดนํ้าฝนต้องเปลี่ยนหรือไม่
2.5 ที่ปัดนํ้าฝนยังใช้งานได้ดี
2.6 ที่ฉีดนํ้าล้างกระจกยังใช้งานได้ดี
2.7 กระจกมองข้างปรับได้ตามปกติ / พับยังไง ให้แสดงให้ดู

3. ยางและล้อ
3.1 เนื้อยางยังนิ่มอยู่พอสมควร / ปียางที่ผลิต / รอยวิ่งของยาง
3.2 ล้อมีรอยบิ่นหรือไม่ / Mag เก่า ใหม่
3.3 แม่แรง / ล้ออะไหล่ / ประแจ / เครื่องมือประจำรถครบหรือไม่

4. กลไกขับเคลื่อน
4.1 เครื่องยนต์เดินเรียบ
4.2 ความร้อนไม่ขึ้นสูง
4.3 เข้าเกียร์ได้ครบ
4.4 เกียร์ไม่หลวม, ไม่มีเสียงดังเวลาเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง
4.5 พวงมาลัยไม่มีเสียงดังเวลาเลี้ยว
4.6 เวลาปล่อยมือแล้วรถไม่เอียง
4.7 คลัทช์ไม่แข็งหรือระยะตื้นจนเกินไป
4.8 ที่เปิดฝาเติมน้ำมันเปิดตรงไหน-สาธิตให้ดูด้วย

5. ห้องเครื่อง
5.1 น้ำมันเบรค/ น้ำมันเครื่อง/ น้ำมันเกียร์/ น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ / สายพานต่างๆ น้ำหม้อน้ำ ระดับน้ำฉีดกระจก/ ถามให้รู้ว่าอยู่ตรงไหน
5.2 สายพานต่างๆ น้ำหม้อน้ำ ระดับน้ำฉีดกระจก/ ลอง Start เครื่องฟังเสียงดู เร่งเครื่อง
5.3 หมายเลขเครื่อง / หมายเลขตัวถัง / วันผลิต
5.4 แผ่นกันความร้อนมีให้หรือไม่-ราคาเท่าไร

6. ระบบปรับอากาศ
6.1 แอร์เย็น / ปรับอุณหภูมิได้

7. ภายใน
7.1 หน้าปัดเป็นรอยขูดขีดหรือไม่ / หน้าปัดหลักๆยังใช้งานได้ครบหรือไม่ เช่น เข็มความเร็ว เข็มนํ้ามัน เข็มไมล์ ไฟเบรคมือ เข็มความร้อน
7.2 เบาะปรับได้ท่าทีถนัด / เข็มขัดนิรภัย ลองปรับ+กระตุก
7.3 กระจกมองหลังและข้างปรับได้ทัศน์วิสัยที่ดี/ กระจกข้างปรับได้ ลองพับ /Central Lock
7.4 ยางปูพื้นติดรถมาแบบไหน
7.5 อุปกรณ์ภายในรถ
7.5.1 วิทยุติดรถ
7.5.2 ทดสอบแอร์ ลองแรงลมทุกระดับ ที่วัดอุณภูมิภายใน-นอก /กดแตร
7.5.3 ที่ปัดน้ำฝน INT
7.5.4 ไฟเบรคดวงที่ 3
7.5.5 ไล่ฝ้าหลัง ข้าง ลองกดแล้วจับดูว่าร้อนไหม…..
7.5.6 หมุนพวงมาลัยจนสุด 2 ด้านมีเสียงดังหรือไม่
7.5.7 ไฟหน้า ปรับ ไกล-ใกล้ สูง-ต่ำ
7.5.8 วิทยุ CD ลองฟังแยกทุกจุดว่า OK
7.5.9 กระจกไฟฟ้า 4 บาน กระจกข้างปรับได้ ลอง
7.5.10 สัญญานเตือนไฟเปิด
7.5.11 สัญญานเตือนประตู/เปิด
7.5.12 สัญญานเตือนคาดเข็มขัด
7.5.13 สัญญานเตือนเบรกมือ
7.5.14 นาฬิกา
7.5.15 กุญแจ/รีโมต/Central Lock
7.5.16 ไฟแสดงตำแหน่งเกียร์
7.5.17 ที่เปิดกระโปรง หน้า หลัง ฝาน้ำมันอยู่ตรงใหน
7.5.18 ช่องเก็บของต่างๆเปิด-ปิด ได้ดีหรือไม่

8. ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
8.1 ไฟสูง ไฟหน้า และไฟหรี่ เปิดติด ปิดดับ สว่างชัดเจน
8.2 ไฟเลี้ยวใช้ได้ทั้ง 2 ข้าง
8.3 ไฟเบรคใช้งานได้
8.4 ไฟถอยหลังใช้งานได้

9. เอกสารต่างๆ
9.1 สมุดทะเบียน
9.2 ใบโอนรถ
9.3 เอกสารประกันภัย / พรบ.
9.4 ใบเสร็จรับเงินค่าdown
9.5 ใบเสร็จค่ามัดจำป้ายแดง 3000 บาท
9.6 ป้ายแดงมีตรา ขส.
9.7 คู่มือรถ
9.8 เอกสารการรับประกันอุปกรณ์รถ
9.9 เอกสารการรับประกันเช็คระยะฟรี
9.10 เอกสารการรับประกันอุปกรณ์ตกแต่ง

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=53788
http://122.155.16.103/webboard/viewtopic.php?f=2&t=10200&start=0

Sunday, September 4, 2011

วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง Secondhand Car

วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง Secondhand Car วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง Secondhand Car
วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง Secondhand Car รายการที่ควรตรวจเช็ค เมื่อจะซื้อรถมือสอง หรือแม้แต่รถใหม่

1. ตัวถัง (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
1.1 ดูขอบ, สันข้างรถว่าแนวยังตรงดีอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะระหว่างประตู และตัวถัง
1.2 เปิด/ปิดประตูครบทุกบาน และกระโปรงหน้า-หลัง ได้ดี
1.3 มีสนิมบริเวณขอบประตูแต่ละบานหรือไม่ แค่ไหน
1.4 เห็นรอยสีใหม่พ่นทับสีเก่าในบริเวณขอบประตูหรือไม่ (ถ้ามีขอบยางกันกระแทกลองแง้มดู)
1.5 ก้มดูใต้บังโคลนล้อ, ใต้ประตู ว่ามีสนิมขึ้น ผุ หรือไม่ มากน้อยเพียงใด
1.6 ลองใช้เล็บเคาะตัวถังดูรอบๆบริเวณไหนเสียงไม่ใสเหมือนบริเวณอื่น อาจมีการทำสีมาแล้ว
1.7 ดูสีตัวถังรอบๆว่ามีการบวมปูดจากสนิมหรือไม่

2. กระจก (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
2.1 กระจกทุกบานขึ้นลงได้สุดหรือไม่ (ถ้าเป็นกระจกไฟฟ้าควรดูเป็นพิเศษ)
2.2 กระจกมีรอยร้าวกะเทาะหรือไม่อาจจะนำไปสู่การแตกง่ายในอนาคต
2.3 ฟิล์มติดกระจกใกล้หมดอายุหรือยัง
2.4 ลวดละลายฝ้ากระจกหลังยังใช้ได้อยู่หรือไม่
2.5 ยางขอบกระจก ยังใช้ได้อยู่หรือไม่
2.6 ยางปัดน้ำฝนต้องเปลี่ยนหรือไม่
2.7 ที่ปัดน้ำฝนยังใช้งานได้ดี
2.8 ที่ฉีดน้ำล้างกระจกยังใช้งานได้ดี
2.9 กระจกมองข้างปรับได้ตามปกติ

3. ยางและล้อ (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
3.1 เปลี่ยนยางมาครั้งล่าสุดเมื่อกี่เดือน/ปีมาแล้ว
3.2 ดอกยางยังลึกอยู่ประมาณ 2 ม.ม.ขึ้นไป
3.3 เนื้อยางยังนิ่มอยู่พอสมควร
3.4 ยางมีการปะหรือไม่
3.5 ยางมีการบวมหรือไม่
3.6 ล้อมีรอยบิ่นหรือไม่

4. กลไกขับเคลื่อน (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
4.1 เครื่องยนต์เดินเรียบ
4.2 ความร้อนไม่ขึ้นสูง
4.3 เข้าเกียร์ได้ครบ
4.4 เกียร์ไม่หลวม, ไม่มีเสียงดังเวลาเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง
4.5 พวงมาลัยไม่มีเสียงดังเวลาเลี้ยว
4.6 เวลาปล่อยมือแล้วรถไม่เอียง
4.7 คลัชไม่แข็งหรือระยะตื้นจนเกินไป (ใกล้หมด)
4.8 ท่อไอเสียผุหรือไม่
4.9 โช็คอัพไม่กระด้าง (สังเกตจากเวลาขับ)

5. ระบบหล่อลื่น (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
5.1 น้ำมันเครื่องเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร
5.2 น้ำมันเกียร์เปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร
5.3 น้ำมันเบรคเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร
5.4 น้ำมันเฟืองท้ายเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร
5.5 น้ำมันเพวงมาลัยเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร

6. ระบบปรับอากาศ (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
6.1 แอร์เย็น / ปรับอุณหภูมิได้
6.2 น้ำยาแอร์เปลี่ยนครั้งสุดท้าย, ล้างตู้แอร์ครั้งสุดท้ายเมื่อใด

7. แบตเตอร์รี่เปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อใด (ลูกเป็นพันนะครับ) (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)

8. ภายใน (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
8.1 เบาะยังคงสภาพดีอยู่หรือไม่ (สะท้อนถึงสภาพการใช้งาน)
8.2 ยางหุ้มพวงมาลัยสภาพดีอยู่หรือไม่
8.3 หน้าปัดหลักๆยังใช้งานได้ครบหรือไม่ เช่น เข็มความเร็ว เข็ม เข็มน้ำมัน เข็มไมล์ ไฟเบรคมือ
8.4 เบาะปรับได้ท่าทีถนัด
8.5 กระจกมองหลังและข้างปรับได้ทัศน์วิสัยที่ดี
8.6 ยางปูพื้นติดรถมาแบบไหน (ดีๆก็เกือบพันเหมือนกัน)
8.7 วิทยุติดรถ ราคาสมเหตุผล
8.8 มีอุปกรณ์อื่นๆประกอบหรือไม่ เช่นที่ล็อคเกียร์ กันขโมย (เทียบกับราคา)

9. ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
9.1 ไฟสูง ไฟหน้า และไฟหรี่ เปิดติด ปิดดับ สว่างชัดเจน
9.2 ไฟเลี้ยวใช้ได้ทั้ง 2 ข้าง
9.3 ไฟเบรคใช้งานได้
9.4 ไฟถอยหลังใช้งานได้

10. เอกสารต่างๆ (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
10.1 สมุดทะเบียน, ใบโอนรถ และบัตรประชาชนมีชื่อและลายเซ็นตรงกัน
10.2 มีการเสียภาษีรถประจำปีถูกต้องไม่ขาด (ระวังค่าปรับ)
10.3 มีการจ่ายประกันภัยบุคคลที่สาม ไม่ขาด (ระวังค่าปรับ)
10.4 ถ้ามีประกันประเภทอื่น ดูว่าเหลืออีกกี่เดือน

http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=2006.0
http://www.rakcar.com/ForumId-495-ViewForum.aspx

Thursday, September 1, 2011

มีเงิน 5 แสนบาท ซื้อรถอะไรดี

มีเงิน 5 แสนบาท ซื้อรถอะไรดี มีเงิน 5 แสนบาท ซื้อรถอะไรดี
เริ่มจากค่ายโปรตรอนมีอยู่ 3 รุ่นให้เลือก เริ่มจากรุ่นใหม่ สด ชิง โปรตอน ซาก้า เพราะใช้เวทีนี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ซาก้ามาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 1.3 ลิตร รหัส CamPro IAFM 95 แรงม้า ภายนอกมีการออกแบบให้โฉบเฉี่ยว ช่วงล่างยังคงเป็นเทคโนโลยีของโลตัส ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เบาะนั่งหุ้มด้วยผ้าลายพิเศษ วิทยุ ซีดี แบบ 1 แผ่น เล่นไฟล์ เอ็มพี 3 ได้พร้อมทั้งช่องรับสัญญาณภายนอก AUX และ USB Port พร้อมสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย (เฉพาะในรุ่น Medium Line) ภายในตกแต่งด้วยสีเทาดำ เพิ่มความสปอร์ต มีทั้งหมด 4 รุ่นให้เลือก สนนราคาเริ่มต้นสำหรับรุ่นเกียร์ธรรมดา 399,000 บาท เกียร์ออโตเมติกราคา 464,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีรถรุ่นเก่ามาตกแต่งใหม่อย่าง โปรตอนรุ่น นีโอ เครื่องยนต์ ขนาด 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 110 แรงม้า ขายในราคา 499,000 บาท และโปรตอน แซฟวี เก๋ง 5 ประตู ขุมพลังรหัส D4F 1149 ซีซี. 4 สูบแถว SOHC 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 74 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 105 นิวตัน-เมตร ที่ 4,250 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด เล่นเป็นแบบเกียร์ธรรมดาได้ ภายในเน้นโทนสีดำ เบาะหลังสามารถพับได้ 50: 50 เพื่อความอเนกประสงค์ ด้านระบบความปลอดภัยระดับเบรก ABS กระจายแรงเบรก EBD ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติมีมาให้เฉพาะรุ่นท็อป ไฮด์ ไลน์ เกียร์อัตโนมัติ เท่านั้น

สำหรับโปรตอน แซฟวี มีแคมเปญดาวน์ 5 % ดอกเบี้ย 0 % ผ่อน 48 เดือน หรือเลือกดอกเบี้ย 0.99 % ผ่อน 60 เดือน /ดอกเบี้ย 1.99 % ผ่อน 72 เดือน/ดอกเบี้ย 3.29 % ผ่อน 84 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 และฟรีเบาะหนัง

มาดูค่ายเกาหลีกันบ้าง “เกีย” ก็ไม่น้อยหน้าเปิดตัว พิแคนโต รุ่นใหม่ ในงานนี้เช่นกัน รถรุ่นนี้เป็นซิตี้คาร์ขนาดเล็ก ขนาด 5 ประตู ภายนอกมีการปรับแต่งให้หน้าตาดูสปอร์ตขึ้น ขณะที่ภายในได้รับการออกแบบให้กว้างขวางสามารถปรับพื้นที่ภายในได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งสามารถปรับเพิ่มเนื้อที่สำหรับการบรรทุกสัมภาระได้มากถึง 880 ลิตร พิแคนโตมาพร้อมกับเครื่องยนต์ เบนซินขนาด 1.1 ลิตร 65 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 9.9 กก.-ม. ที่ 2,800 รอบ/นาที ความเร็วสูงสุดที่ 154 กม./ชม. ระบบเกียร์มีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ระบบซิงโครเมทและเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์

ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบแม็กเฟอร์สันสตรัท สามารถรับแรงสะเทือนจากถนนได้ดีและควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ ด้านหลังเป็นแบบกึ่งอิสระทอร์ชันบีม พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้าน ระบบแร็กแอนด์พิเนียน รัศมีวงเลี้ยว 4.6 เมตร นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความปลอดภัย ทั้งในแบบ Passive และแบบ Active Safety อย่างครบครัน สนนราคาอยู่ที่ 470 ,000 บาท

ส่วนอีกค่ายเป็นรถจากจีนคือ คิวคิว เป็นรถเล็ก บรรจุเครื่องยนต์เบนซินรหัส SQR 472F ขนาด 1.1 ลิตร DOHC 4 สูบ แถวเรียง 16 วาล์ว ให้กำลังสูงสุด 67 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 90 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500-4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และ อัตโนมัติ 5 สปีด ทำความเร็วสูงสุดได้ 130 กม./ชม. พร้อมอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยที่ความเร็ว 90 กม./ชม. อยู่ระดับ 19 กม./ลิตร

มีมิติตัวถัง ยาว 3,550 มม. กว้าง 1,495 มม. สูง 1,485 มม. ระยะฐานล้อ 2,340 มม. รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 5 เมตร พร้อมล้ออัลลอย 14 นิ้ว ประกบยางขนาด 165/55R14 ด้านช่วงล่างหน้าเป็นอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท หลังเป็นแบบเทลลิงอาร์ม

ด้านระบบความปลอดภัยอย่างเบรกหน้าดิสก์-หลังดรัม พร้อม ABS (รุ่นเกียร์อัตโนมัติ) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด หน้าหลังเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มีให้เลือก 4 รุ่น เริ่มจากเกียร์ธรรมดา 389,000บาท เกียร์ธรรมดา High Line ราคา 393,000 บาท เกียร์ออโตเมติก 429,000 และรุ่นท็อป ราคา 434,000 บาท

สำหรับรุ่นคิวคิว ดาวน์เริ่มต้นที่ 29,000บาท ผ่อน 0% นาน 72 เดือน ผ่อนชำระเริ่มต้นที่เดือนละ 4,640 บาท และแถมฟรีประกันภัยชั้น 1

นอกจากคิวคิว ค่ายนี้ยังมีรถเล็กอีกรุ่นหนึ่งเพิ่งเปิดตัวไปต้นเดือนที่ผ่านมา คือ A1 พร้อมเปิดราคาในช่วงงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 398,000 บาท แต่หลังจากหมดงานนี้ราคาจะขยับขึ้นเป็น 429,000 บาท (เกียร์ธรรมดา)

A1 มากับเครื่องยนต์ 4 สูบแถวเรียง 16 วาล์ว DOHC ขนาด 1.3 ลิตร กำลังสูงสุด 83 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 114 นิวตันเมตรที่ 3,800-4,000 รอบต่อนาที เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะขับเคลื่อนล้อหน้า ที่ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ถึง 20 กม./ลิตร (ความเร็วคงที่ 60 กม./ชม.) ทำความเร็วได้สูงสุด 156 กม/ชม.

ส่วนทั้งภายนอก มีล้ออัลลอย สปอยเลอร์หลัง แร็กหลังคา ไฟตัดหมอก หน้าหลัง และที่ปัดน้ำฝนกระจกบังลมหลัง ส่วนภายในเป็นเบาะนั่งหนังอย่างดี กระจกไฟฟ้า 4 บาน กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า ระบบเซ็นทรัลล็อกแบบ 2 ชั้น กุญแจรีโมต ระบบปรับอากาศ ระบบเครื่องเสียงพร้อมลำโพง 4 ตัว ส่วนระบบความปลอดภัย มีระบบกันขโมยแบบ Immobilizer ถุงลมนิรภัยสำหรับผู้ขับกับผู้โดยสารตอนหน้า เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดทั้งด้านหน้าและหลัง ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก

สุดท้ายค่ายรถจากญี่ปุ่น นิสสัน มาร์ช และด้วยความแรงของรถรุ่นนี้ทำให้เกิดปัญหาการรอรถจนลูกค้าเกิดความเบื่อหน่าย แต่ก็ยังมีคนซื้อที่เต็มใจรอ เพราะหน้าตา ความประหยัด และราคาพอไหว ยอดขายของรถรุ่นนี้จึงยังวิ่งอยู่ สำหรับมาร์ชมากับเครื่องยนต์ใหม่รหัส HR12DE 1.2 ลิตร 3 สูบ ให้กำลังสูงสุด 59 กิโลวัตต์ หรือ 79 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบ/นาที มีระบบควบคุมการเปิดปิดของวาล์ว (continuously valve-timing control -CVTC) จุดเด่นสำคัญของเครื่องยนต์ตัวนี้คือ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณเพียง 120 กรัม/กิโลเมตร ซึ่งถือว่าเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในระดับต้น ๆของโลก

นิสสัน มาร์ช มีให้เลือกทั้งในรูปของเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ หรือในรูปแบบของเกียร์แบบ XTRONIC CVT (Continuously Variable Transmission) รุ่นใหม่ของนิสสันและด้วยอัตราการทดเกียร์ที่กว้างขึ้นนี้ทำให้เครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร สามารถประหยัดน้ำมันและช่วยให้อัตราเร่งดีสนนราคารุ่นนี้เริ่มต้นที่ 375,000-537,000 บาท

ทั้งหมดเป็นรถเล็ก ราคาที่พอซื้อได้สำหรับคนเบี้ยน้อย ไม่เกี่ยงยี่ห้อ ประหยัดน้ำมัน และที่สำคัญใช้ชีวิตในเมืองเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย

http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9530000172784
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

Car รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Second Hand Blog Archive