Car รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second HandCar รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second HandCar รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second HandCar รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second HandCar รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Price Second Hand

Sunday, December 11, 2011

ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Test Drive Nissan Almera

ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Test Drive Nissan Almera
Nissan Almera Club No.1 นิสสัน อัลเมร่า New Nissan Almera ราคา รีวิว ...
almerathailand.com/
Nissan Almera Club No.1 นิสสัน อัลเมร่า New Nissan Almera ราคา รีวิว ทดสอบ ทดลองขับ Test Drive เปิดตัว โปรโมชั่น ของแถม ออกรถ Almera. ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Test Drive Nissan Almera

ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Test Drive Nissan Almera แรกที่ได้เห็นจากสายตา ภายนอก มันคือรถขนาดเดียวกับ Vios หรือ City ทีเดียว ภายนอกก็ดูทันสมัย มองดูรวมๆ ก็กลมกลืนดี หากเอาไปโหลดนิด ใส่หางปลาวาฬ ใหญ่ขึ้นหน่อย รุ่นนี้น่าจะแต่งภายนอกได้สวยทีเดียว
แต่อย่าลืม เครื่อง 1200 ซีซี แต่งสวยได้ แต่เอาแรง คงไม่ได้ ครับ

ส่วนภายใน สไตล์ โทนดำ ต้องบอกว่า ตกแต่งเหมือน พยายามลดต้นทุน และให้คนซื้อรู้สึกได้ ว่านี่ อีโคคาร์ นะเฟ้ย แต่เมื่อเทียบกับโซลูน่าที่ใช้อยู่ (รถประหยัดต้นทุน รุ่นแรก) ต้องบอกว่า ดีกว่าน้องฟ้านิดหน่อยครับ ไม่ถึงกับเลวร้ายอะไรมาก

ที่สำคัญ ทันทีที่ได้นั่งด้านคนขับ โอ้ว มันกว้างใช้ได้ทีเดียว สูง 173 ซม. นั่งสบาย ลองถอยเบาะไปด้านหลังสุดราง แล้วไปนั่งหลังคนขับ นั่งได้ครับ ขาไม่ติด แต่จุดที่เป็นข้อสังเกตุ คือ ศรีษระ ผมจ่อเพดานเลย อันเกิดมาจากหลังคา น้องอัลมีร่า สโลปมาที่ท้ายมาก คนนั้งต้องสไลด์ก้น เดินหน้านิดนึง ก็จะห่าง ในระดับที่ปลอดภัยเมื่อ รถขึ้นคอสะพาน

สรุปด้านหลังนั่งสบายมาก สูงไม่เกิน 170 ซม. เข่าไม่ติด กว้างกว่า วีออสด้วยซ้ำ (ความรู้สึกผมเอง หลังจากไปนั่งวีออส)

เอาหล่ะ ได้เวลา ลองแล้ว รถที่ทดสอบ เป็นรุ่น VL ตัวท้อป ใช้Push start เพียงกดรีโมท เปิดประตูแล้ว ก็เก็บกุญแจใส่กระเป๋าเสื้อได้ กดปุ่มสตาร์ทได้เลย สะดวกดี

สัมผัสแรก หลังเครื่องติด คือ พวงมาลัย ถูกเซ็ทมาเบามาก มือเดียวควงพวงมาลัย สบาย เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงขับในเมือง โยกจอดได้ง่ายขึ้น การออกตัว นั่งสามคน ประมาณ 85+60+55 =200 กก.

การออกตัวไม่ต่างกับ รถโซลูน่าที่ใช้อยู่ เมื่อความเร็วเพิ่มไประดับ 50 กม./ชม. เห็นรถว่าง ก็กดคันเร่งทันที เครื่องยนต์คำรามดังพอควร ความเร็ว ไปที่ 110 กม ได้ไม่ยาก ไม่ได้อืดมากอย่างที่คิด แต่เสียงคำราม นี่แผดก้องทีเดียว เพราะเครื่องเล็ก คงต้องทำงานหนักมากกว่า 1500ซีซี

ที่สัมผัสได้จากความเร็ว 110กม/ชม. นั้น คือ พวงมาลัยเบาไปนิด แต่ไม่มีถนนให้ไปต่อแล้ว ต้องชะลอความเร็ว แล้วกลับรถ เพื่อกลับศูนย์

สรุประยะทดสอบ 10 กม. ก็ให้ความรู้สึกดี หลายอย่าง อยากสรุปให่ผู้ที่สนใจรุ่นนี้อยู่ดังนี้
1. เป็นรถเล็ก ที่กว้างมาก ขนาดพอๆกับวีออส ด้านเบาะหลัง กว้างกว่าด้วยซ้ำ (ไปดูวีออสเทียบมา แต่ยังไม่ได้ลองขับ เซลล์บอกรถไม่อยู่ งง )
2. พวงมาลัย เบามือ ขับในเมือง คล่องตัว มากขึ้น
3. วัสดุอุปกรณ์ ไม่ได้ถึงขนาดแย่ แต่จะเรียกว่าดี คงไม่ได้ เอาเป็นว่าสมราคา
4. ราคา รุ่นที่คุ้มเงิน ผมว่า รุ่น ES มีแอร์แบ็ก ให้ด้านคนขับ พร้อมABS แล้ว ราคา 523,000 (หักคืนภาษี 73,000 เหลือเพียง 450,000 บาท) หรือ รุ่น V 563,000 (หักคืนภาษี 79,000 เหลือเพียง 484,000 บาท) มีแอร์แบ็ก 2ใบ ระบบควบคุมบนพวงมาลัย ส่วน พุชสตาร์ทในรุ่น VL ผมไม่ค่อยคุ้น เลยไม่ชอบเท่าไหร่
5.เหมาะวิ่งในเมืองเป็นประจำ ออก ตจว.ปีละสามสี่ครั้ง
6. ท้ายรถ กว้างมาก กว้างจริงๆ

ส่วนข้อด้อยเท่าที่เจอ
1. วัสดุ ตกแต่ง เรียบไปหน่อย คงต้องซื้อมาใส่หลายอย่าง ชายบันได ไฟเลี้ยวกระจกมองข้างเป็นต้น แม้แต่เบาะ ก็ผ้าแบบพื้นๆ
2. เบาะหลัง คนสูง เกิน 173 ซม. ต้องนั่งสไลด์ก้นไปด้านหน้า ดีที่สุด ใครสูงไปนั่งหน้าดีกว่า
3. คนเท้าหนัก ไปเลือก 1500 เลย มันสร้างมาเพื่อขับในเมือง ไม่ได้ให้คุณกระทืบได้ตามใจทุกเวลา
4. กระจกมองข้าง เล็กมาก ทั้งๆทีออกแบบโครงด้านหลังกว้างใหญ่ แต่หน้ากระจก เหลือ2 ใน 3 มันออกแบบอย่างงี้ได้ไงเนี่ย
5. ของแถมน้อยมากกกกกก 6000 บาท

ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Test Drive Nissan Almera
ข้อมูล Pantip.com
http://almerathailand.com/index.php/topic,215.msg1335/topicseen.html#new

นิสสัน อัลเมร่า | Nissan Almera Club
www.almera-club.com/tag/นิสสัน-อัลเมร่า/
Nissan Almera Club. นิสสัน อัลเมร่า คลับ. ยินดีต้อนรับสู่ "อัลเมร่าคลับ" ชุมชนคนรักรถยนต์นิสสันอัลเมร่า. http://www.facebook.com/pages/Nissan-Almera- ... ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Test Drive Nissan Almera

Tuesday, November 29, 2011

รถถูกน้ำท่วม ระดับน้ำกับความเสียหาย Car Flood

รถถูกน้ำท่วม ระดับน้ำกับความเสียหาย Car Flood รถโดนน้ำท่วมนันไม่ว่าจะทางใดมากหรือน้อยเพียงใด เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่ารถโดนน้ำท่วมนั้น มักจะได้รับความเสียหายเสมอ แต่ทั้งหมดทั้งปวงนั้นต้องอาศัยการพินิจพิจารณา โดยเฉพาะการดูเป็นอย่างดี เพราะบางครั้งรถโดนน้ำท่วมบางคันก็อาจจะไม่เสียหายมาก ถ้าเงินถึงงบมีทำดีๆ กลับมาขับได้เหมือนใหม่เช่นกัน

หากพูดถึงรถโดนน้ำท่วมแล้วความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้น โดยส่วนใหญ่เรามักจะต้องพิจารณาจากกระดับน้ำที่รถคันนั้นถูกแช่เอาไว้ก่อน ซึ่งโดยมากและรถที่ถูกนำมาย้อมแมวขายต่อนั้น มักจะผ่านระดับน้ำมาเพียง 3 ระดับเท่านั้น เพราะระดับที่ 4 ในระดับมิดคัน โดยมากเจ้าของรถมักจะได้รับเงินชดเชยจากประกัน และถูกตีขายเป็นอะไหล่สู่เชียงกง หรืออย่างแย่สุดก็ทุบทิ้งกลับบ้านเก่ากันไป

1.ระดับครึ่งล้อถึงใต้ประตู
ระดับครึ่งล้อหรือใต้ประตูนั้นเป็นระดับน้ำที่จะว่าไปก็ไม่อันตรายอะไรมากมายนัก รถเก๋งวิ่งใด้กระบะฉลุย ระดับน้ำ ไม่เกิน 1 ฟุตหรือ 30 ซ.ม. นั้น ถือว่าไม่น่าจะทำความเสียหายอะไรได้ แน่นอนนั่นคือเวลาที่คุณขับผ่านที่อาจจะพาเสียวๆบ้าง แต่เมื่อมันแช่ในน้ำเป็นคนละเรื่องกัน

รถที่จมน้ำระดับครึ่งล้อนั้นถือว่าเป็นความเสียหายที่น้อยที่สุดดูแล้ว จะว่าไม่เสียหายเลยก็คงไม่ใช่ เพราะ โดยมากยิ่งนานน้ำยิ่งซึม อาจจะเกิดสนิมใต้ท้องรถได้ ยิ่งจุดไหนเคยผ่านการกระแทกมานั้น ไม่ต้องพูดถึง น้องสนิมถามหา ส่วนในรถนั้นอาจจะเจอพรมแฉะอย่างมากก็เลาะพรมออกมาตากแดดถอดซักดูและพวกขาเบาะต่างๆ ตากแดด-2 แดด ไม่นานก็หายและไม่มีกลิ่นติด ถือเป็นรถที่ดูยากพอสมควร ยิ่งเจ้าของคนไหนเงินถึง ทำกลับดีๆ แทบไม่รู้ประวัติกันเลยทีเดียว

รถถูกน้ำท่วม ระดับน้ำกับความเสียหาย Car Flood

2. ระดับครึ่งประตูรถ / มิดล้อ
ระดับนี้เป็นระดับน้ำปานกลางถ้าเทียบกับเก๋งก็ประมาณไม่เกิน 50 ซ.ม. ระดับครึ่งประตูนี้ค่อนข้างเสียหายเริ่มจะรุนแรง ที่ประกันเขาว่าๆ เอาเงินมาให้ซ่อม 2- 3 หมื่นนั้น บอกตามตรงในทางปฏิบัติเลยว่ายาก เพราะ สิ่งที่เสียหายนั้น เกินกว่า 50 % ของตัวรถ กล่าวคือ น้ำเข้ารถ ได้ซักทั้งพรม ทั้งเบาะ และเมื่อน้ำเข้ารถท่วมแช่ ก็หมายถึงน่าจะเข้าในส่วนของเครื่องยนต์ ยิ่งรถเก๋ง ฟันธงได้เลยว่าเจอแน่ นี่ยังไม่นับพวกชิ้นส่วนพลาสติกต่างๆ ไปยันระบบปรับอากาศที่ต้องดูแลทำความสะอาดกันยกใหญ่ และที่ลืมไม่ได้จนเรียกว่า "เน่าใน" นั้น คงไม่พ้นระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะชุดปลั๊กต่างๆนั้นจะเกิดความชื่นเสียหายยากแก่การซ่อมแซม เว้นแต่ยกเปลี่ยนอย่างเดียว

ที่กล่าวมานั้นคือสิ่งที่รถโดนน้ำท่วมในระดับนี้จะต้องซ่อม ที่ยังมีพวกชุดลูกยางช่วงล่าง ระบบเบรค ที่ต้องไล่ความชื้นกันยกใหญ่ จึงกล้าพูดว่าไม่มีทางที่เงินน้อยขนาดนั้นจะซ่อมได้หมดอย่างแน่นอน และกับรถประเภทนี้สังเกตง่ายมาก เพราะถ้าเจ้าของเดิมหรือเต๊นท์ทำไม่ถึง มีจุดตำหนิมาให้เราได้ดูศึกษาเป็นวิทยาทานแน่นอน

3.ระดับมิดคอนโซลหน้า
ระดับนี้เป็นระดับที่เรียกว่าเสียหายหนักสุดๆ แล้วที่จะนำมาย้อมแมวขาย เพราะ เรียกว่ามีแต่โคลงรถมาให้ทำอย่างเดียว อย่างอื่นแทบจะต้องยกเซทเปลี่ยนใหม่หมด แต่ก็อีกนั่นแหละคนไทยหัวดัดแปลงก็น่าจะมีหลุดมาบ้าง แต่ความจริงแล้วความเสียในระดับนี้กับระดับมิดล้อนั้น แทบไม่ต่างกันเลย จะหนักกว่าก็ตรงเครื่องยนต์ ซึ่งในต่างประเทศนั้น ถ้ารถโดนน้ำท่วมเกินคอนโซลหน้า จะตีเป็นเสียหายทั้งหมดหรือ total lost ทันที เพราะซ่อมไม่คุ้ม แต่ในบ้านเรานั้นต้องขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท

รถถูกน้ำท่วม ระดับน้ำกับความเสียหาย Car Flood
http://auto.sanook.com/3138/รถน้ำท่วม-ระวังให้ดีงานนี้มียอมแมวขาย-ตอนที่-1/

Tuesday, November 15, 2011

คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea

คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea สื่อต่างประเทศ ชูคนไทยไอเดียเจ๋งสู้น้ำท่วม ดัดแปลงพาหนะ สิ่งของ สุขา ที่ลุยกับน้ำท่วมได้อย่างดี

(15 พ.ย.) เว็บไซต์ เดอะแอตแลนติค รายงานว่าชมคนไทยว่า ในขณะที่น้ำท่วมในประเทศไทยยังคงส่งผลกระทบต่อคนนับล้านทั้งต่างจังหวัด และคนเมืองหลวงอย่างกรุงเทพที่โดนโจมตีอยู่ในขณะนี้ แต่คนไทยก็มีความคิด ไอเดีย ดัดแปลง พาหนะ สิ่งของ วัสดุ ที่สามารถสู้กับน้ำท่วมได้ เป็นอย่างดีจนเกิดเป็นภาพข่าวทั้งในสื่อไทย และสื่อต่างประเทศบ้างแล้ว

โดยเดอะแอตแลนติค ได้ลงภาพคนไทย ดัดแปลง พาหนะ และเครื่องใช้ต่างๆ ที่ต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมยาวนานครั้งนี้ ทั้ง รถ3 ล้อยกหน้าสูง มอเตอร์ไซต์ยกโครงเหล็กสูง
เรือติดเครื่องยนต์ทำด้วยท่อพลาสติกขนาดใหญ่ เรือขวดน้ำดื่มพลาสติกที่ใช้แล้ว ทางเดินลอยน้ำ สุขาลอยน้ำ เก้าอี้เดินลุยน้ำ ซาเล้งลอยน้ำ เป็นต้น

คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea
คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea
คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea
คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea

คนไทยไอเดียเจ๋ง พาหนะ น้ำท่วม Thai Idea
http://news.sanook.com/1071864/สื่อนอกชมคนไทยไอเดียเจ๋ง-ทำพาหนะสู้น้ำท่วม/

Thursday, November 10, 2011

เปลี่ยนรถดีไหม หลังน้ำท่วม After Car Flood

เปลี่ยนรถดีไหม หลังน้ำท่วม After Car Flood
เปลี่ยนรถดีไหม หลังน้ำท่วม After Car Flood หลังจากสภาวะน้ำท่วมที่หลายคนเดือดร้อนไปตามๆดกันนั้น นอกจากหลากเรื่องที่ต้องมากมายหลังน้ำลดแล้ว รถยนต์นั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อรถที่รักได้รับความเสียหายจากภัยน้ำท่วม ทางออกก็คงไม่พ้นการตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี โดยเฉพาะเรื่องจะเปลี่ยนรถหรือไม่ดี และเรามี 6 ข้อคิดสำคัญที่จะฝากไว้ให้ไปปวดสมองกันเป็นการบ้าน

1.เสียหายมากน้อยเท่าไร หลังจากน้ำลดแล้ว เรื่องราวของรถนั้นเราสามารถประเมินได้ในกรณีที่รถยนต์ของคุณนั้นได้รับความเสียหายจากน้ำท่วมนั้นมีมากหรือน้อยเท่าไรบ้าง รถบางคันถึงจะจมน้ำ แต่ก็อาจจะไม่เสียหายมากที่คิด แต่เราจะประเมินได้ถี่ถ้วนขึ้นเมื่อน้ำลด ซึ่งอาจจะลองไปสอบถามราคาค่าซ่อมก่อนก็ได้

2.เงินสนับสนุน เมื่อรู้ค่าความเสียหายแล้ว เราก็ต้องมานั่งคิดถึงสิ่งสำคัญในเรื่องราวการซื้อรถนั่นคือเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ ซึ่งถ้ารถคุณทำประกันชั้น 1 ไว้ มันก็จะครอบคลุมถึงเรื่องน้ำท่วมด้วย หากรถเสียหายมาก คุณจะถูกตีเป็นสูญเสียทั้งหมด และมันช่วยให้ง่ายในการตัดสินใจว่าจะซื้อรถใหม่ดีหรือไม่ ที่สำคัญลืมไม่ได้กับโปรโมชั่นต่างๆที่จะออกมาดันยอดกันสนุกต่อจากนี้

3.ค่างวดที่เหลือ ปัจจุบันแทบจะหาไม่ได้แล้วที่เราจะซื้อรถด้วยเงินสด ทุกคนล้วนแต่ผ่อนรถใช้วงเงินสินเชื่อ จริงอยู่บางทีรถคุณอาจจะเสียหายไม่มากจนเกินซ่อม แต่จะเปลี่ยนดีหรือไม่ต้องดูด้วยว่า คุณมีค่าใช้จ่ายที่ต้องหักลบกลบหนี้มากมายหรือไม่ ถ้ายังเยอะอยู่ไม่คุ้ม ก็ซ่อมแล้วทนใช้ไปก่อนดีกว่า

4.ประเมินราคารถน้ำท่วม โดยมากรถถูกน้ำท่วมนั้นจะไม่มีที่ไหนหรือแม้แต่เต๊นท์ไหนรับซื้อเข้ามา ไม่ใช่เพราะว่ากลัวขายไม่ได้ แต่มันมักจะเกี่ยวกับเรื่องชื่อเสียงของเต๊นท์ ซึ่งความจริงแล้วรถจมน้ำ ถ้าทำดีๆ รับรองได้ว่าเนียนจนไม่มีทางจะรู้เรื่อง แต่ด้วยความที่ช่วงหลังน้ำลดคนก็มักจะหาเรื่องเปลี่ยนรถเช่นเดียวกับคุณ ทำให้มีรถจำนวนมากไหลบ่าสู่ตลาดมือสอง พอๆกับน้ำท่วม ถ้าอยากขายก็ต้องรับสภาพให้ได้ในเรื่องของราคา

5.ใหม่ดีกว่าเก่าจริงหรือ หลายคนนั้นมีความอยากได้รถใหม่เพียงเพราะว่ามันขับแล้วดูทันสมัยไฮโซ เตะตาคนว่ารถเก่าๆ ที่แทบไม่มีคนสนใจมอง ความจริงแล้วนั่นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกนัก เนื่องจากรถนั้นหน้าที่ของมันที่สำคัญคือการให้ความสะดวกในการเดินทางไม่ใช่โอ้อวด ดังนั้นการที่จะซื้อรถใหม่ ควรหาเหตุผลดีๆมากกว่าแค่อยากได้ และในกรณีน้ำท่วมนี้หมายถึงรถคุณได้รับความเสียหายจนซ่อมไม่คุ้ม

6.ทางเลือกอื่นมีหรือไม่ บางครั้งน้ำท่วมอาจจะมาพร้อมกับโอกาสที่ดีโดยเฉพาะหลายๆคนที่มองหาโอกาสในการบูรณะรถอย่างจริงจังทั้งทางด้านเครื่องยนต์และตัวถัง ตรงนี้น่าจะเป็นโอกาสที่ในการพูดคุยกับคนที่บ้าน ว่าน้ำท่วมเป็นต้นเหตุอย่างน้อยก็อาจจะดีกว่าซื้อรถใหม่ หรือไม่ก็บูรณะไปสักพักก่อนค่อยขายน่าจะดีกว่าช่วงนี้

เปลี่ยนรถดีไหม หลังน้ำท่วม After Car Flood
http://auto.sanook.com/3057/เมื่อได้เวลาคิด-จะเปลี่ยนรถดีไหม-หลังน้ำท่วม/

ข้อแนะนำ การเดินทาง ช่วงน้ำท่วม Flood Car

ข้อแนะนำ การเดินทาง ช่วงน้ำท่วม Flood Car
คู่มือ รับสถานการณ์น้ำท่วม (คู่มือน้ำท่วมฉบับเต็ม+ฉบับย่อ+ฉบับการ์ตูน+ฉบับ ...
http://www.softbizplus.com/general/533-floods-handbook
การเตรียมการก่อนน้ำท่วม. การป้องกันตัวเองและความสียหายจากน้ำท่วม ควรมีการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ... เรียนรู้เส้นทางการเดินทางที่ปลอดภัยที่สุด จากบ้านไปยังที่สูงหรือพื้นที่ปลอดภัย 4. ... มา พร้อมทั้งจดบันทึกด้วยว่าจะจัดการคำแนะนำอย่างไร ในช่วงเวลาที่ทุกๆ ...

- เปิดเว็บไซต์รายงานสภาพจราจรก่อน เพราะช่วงนี้มีประกาศปิดเส้นทางจราจรหลายเส้นทางอันเนื่องจากน้ำท่วมสูง
- หากคุณต้องไปส่งนักเรียน หรือ ทำงานอยู่ ควรดูเว็บไซต์ประกาศจากหน่วยงานของคุณ หรือโทรสอบถามที่ทำงานว่าได้ประกาศหยุดหรือไม่ ถ้าหยุดก็ไม่ต้องไป แต่ถ้าไม่หยุดจะต้องศึกษาเส้นทางจราจรว่าจะเดินทางแบบต้องเลี่ยงเส้นทางน้ำท่วมอย่างไร
- ตรวจเช็คสภาพรถให้อยู่ในสภาพพร้อมก่อนออกเดินทาง แต่ถ้าปลายทางนั้นมีน้ำท่วมต่ำถึงปานกลาง ควรขับด้วยความระมัดระวัง และสำคัญควรพกมือถือ ที่ชาร์จพกพาหรือที่ชาร์ทมือถือบนรถยนต์ ไฟฉาย รองเท้าบูท เสื้อชูชีพติดไปด้วย หากปลายทางน้ำท่วมสูงรีบไม่ควรขับฝ่าน้ำท่วมควรหาที่จอดรถที่อยู่สูงๆเหนือจากระดับน้ำ
- ศึกษาจุดจอดรถที่สูงๆไว้ เพื่อกรณีจอดฉุกเฉินหนีน้ำท่วมระหว่างทาง
- เผื่อเวลาเดินทางมากขึ้นเนื่องจากน้ำท่วมนี้ทำให้การจราจรติดขัด และรถเคลื่อนตัวได้ช้า
- หากคุณเดินทางทางรถเมล์ รถบัส รถตู้ ควรโทรสอบถาม ท่ารถโดยสาร ขสมก เกี่ยวกับเส้นทางการเดินรถก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางจากกรุงเทพไปต่างจังหวัด บางท่ารถก็ย้ายที่เพื่อเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ บางท่ารถก็ปิดให้บริการ อันเนื่องจากน้ำท่วมเส้นทางจราจร และจังหวัดปลายทางก็ถูกน้ำท่วมสูงไม่สามารถเปิดให้บริการได้
- หากคุณเดินทางตามรถไฟฟ้า ควรติดตามผ่านเว็บไซต์หลักของ MRT , BTS และ Airport Link เป็นระยะๆ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมท่วมใกล้ถึงสถานีให้บริการ อาจกระทบให้ปิดทางเข้าออกบางสถานี หรือเลวร้ายสุดคือ หยุดให้บริการ โดยสามารถติดตามประกาศ ทาง twitterได้ที่ @mrt_bmcl , @bts_skytrain และ @ARL_SRTET
- สำหรับผู้ที่จะเดินทางด้วยรถไฟ ขณะนี้เส้นทางรถไฟมีการเปิดให้บริการสลับหยุดให้บริการในบางขบวน โดยเฉพาะเส้นทางไปสายใต้เนื่องจากน้ำท่วมสูง แนะนำให้สอบถามสถานีรถไฟที่ให้บริการ หรือเช็คทางเว็บไซต์ http://www.railway.co.th/ ก่อนเดินทางทุกครั้ง
- หมั่นติดตามสถานการณ์น้ำท่วมตลอดเวลาผ่านทาง วิทยุ หรือโทรทัศน์ รวมทั้งให้ความร่วมมือกับตำรวจจราจรด้วย
- การจอดรถควรจอดรถในอาคารที่จัดไว้ให้ ไม่ควรจอดรถบนทางด่วนเป็นอันขาด เพราะมีรถจำนวนมากจำเป็นต้องใช้เส้นทาง ตลอดจนหน่วยรถกู้ภัย รถพยาบาล และหน่วยอาสาสมัครต่างๆจำเป็นต้องใช้เส้นทางนี้เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย หรืออพยพไปจังหวัดอื่นด้วย
- หากพื้นที่ปลายทางมีน้ำท่วมสูง แนะนำควรใช้เรือแทนรถยนต์ในการเดินทาง จะสะดวกที่สุด
- ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับประกาศเรื่องน้ำท่วม ตลอดเวลา เผื่อความพร้อมในการเตรียมอพยพไปอยู่สถานที่อื่นด้วย

ข้อแนะนำ การเดินทาง ช่วงน้ำท่วม Flood Car
http://www.it24hrs.com/2011/traffic-thaiflood-plan-travel/
http://www.vcharkarn.com/varticle/41668

วางแผนเดินทางในช่วงน้ำท่วม ด้วยเว็บไซต์และแอพบนมือถือ | iT24Hrs
www.it24hrs.com/2011/traffic-thaiflood-plan-travel/
ข้อแนะนำในการเดินทางในช่วงสถานการณ์น้ำท่วม. เปิดเว็บไซต์รายงานสภาพจราจรก่อน เพราะช่วงนี้มีประกาศปิดเส้นทางจราจรหลายเส้นทางอันเนื่องจากน้ำท่วม ...

Saturday, November 5, 2011

ดูแลมอเตอร์ไซค์ หลังลุยน้ำท่วม Motorcycle Flood

ดูแลมอเตอร์ไซค์ หลังลุยน้ำท่วม Motorcycle Flood
เมื่อน้ำท่วม จะดูแลรถมอเตอร์ไซค์ อย่างไร
http://webboard.formula1.sanook.com/forum/?topic=3507197
การดูแลรักษารถมอเตอร์ไซค์ หลังจากที่ผู้ขับขี่ต้องผจญกับสภาวะน้ำท่วมนั้น ... ระบบเบรก หลังจากที่ขับขี่รถลุยน้ำมาแล้ว น้ำจะเข้าไปอยู่ระหว่างหน้าสัมผัสของตัว ดรัมเบรค กับ ผ้าเบรก ... ผู้ขับขี่จะต้องดูแลและสนใจเป็นพิเศษหลังการใช้งานในแต่ละวัน ...

ดูแลมอเตอร์ไซค์ หลังลุยน้ำท่วม Motorcycle Flood โดยปกติแล้วการดูแลรักษารถมอเตอร์ไซค์นั้น ไม่จำเป็นต้องรอให้น้ำท่วม หรือว่าต้องขับขี่ไปลุยน้ำเสียก่อนแล้วค่อยทำ เพราะสามารถทำได้ตลอดเวลาเมื่อคุณมีเวลาว่าง ยิ่งดูแลรักษาบ่อยๆ ยิ่งเป็นการดีกับรถมอเตอร์ไซค์ของคุณเอง สิ่งที่ควรดูแลเมื่อขับขี่ในสภาวะน้ำท่วมก็คือ

ระบบเบรก หลังจากที่ขับขี่รถลุยน้ำมาแล้ว น้ำจะเข้าไปอยู่ระหว่างหน้าสัมผัสของตัว ดรัมเบรกกับผ้าเบรก เมื่อนำรถไปขับขี่อีกครั้งจะทำให้เบรกไม่อยู่ การจอดทิ้งไว้สักพักไม่ได้ทำให้น้ำที่ค้างอยู่หายไป การแก้ไขที่ถูกต้องเมื่อขับลุยน้ำมาแล้ว ให้ขับขี่เป็นระยะทางสั้นๆ แล้วทำการเบรกหลายๆ ครั้ง เพื่อไล่น้ำให้ออกไปจากหน้าสัมผัสให้หมด ทางที่ดีที่สุดควรถอดผ้าเบรกออกมาทำความสะอาด ไล่น้ำ โดยการใช้ลมเป่าซึ่งจะทำให้ไล่น้ำออกไปอย่างรวดเร็วและหมดจด การย้ำเบรกหลายๆ ครั้ง ควรดูด้านหลังด้วยว่า มีรถตามมาหรือเปล่า และเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงค่อยลงมือทำ

หัวเทียนนับว่ามีส่วนสำคัญไม่น้อย เมื่อขับรถลุยน้ำแล้วถึงที่หมาย ควรจะทำความสะอาดหัวเทียนโดยการถอดปลั๊กหัวเทียนออก หรือจะถอดหัวเทียนออกมาก็ได้แล้วใช้ลมเป่าเพื่อไล่น้ำ และความชื้นออกไปจากระบบ โดยเฉพาะในส่วนที่ลึกเช็ดเข้าไปไม่ถึง น้ำและความชื้นที่สะสมภายในระบบ จะทำให้เกิดสนิมบริเวณเหลี่ยมที่ขันหัวเทียน ทำให้การระบายความร้อน ที่เกิดจากการเผาไหม้ไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ และทำให้การจุดระเบิดทำได้ไม่เต็มที่

น้ำมันเครื่องอีกส่วนที่ต้องดูแลไม่แพ้ระบบอื่นๆ เมื่อผ่านการขับขี่ลุยน้ำมาแล้ว ถ้าไม่แน่ใจว่าจะมีน้ำเข้าไปในเครื่องหรือไม่ ให้สังเกตที่ช่องดูระดับ หรือเปิดฝาจุกเติมน้ำมันเครื่อง (รุ่นที่ไม่มีช่องดูระดับ) แล้วสังเกตที่ก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องว่า น้ำมันเครื่องมีสีขาวขุ่นหรือไม่ ถ้ามีแน่ใจได้เลยว่ามีน้ำเข้าไปผสมกับน้ำมันเครื่องเรียบร้อยแล้ว วิธีการแก้ไขคือให้จัดการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องออกทันที หากปล่อยทิ้งไว้ สนิม และความชื้นต่างๆ ในระบบ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ เพราะน้ำไม่มีหน้าที่ในการหล่อลื่นและปกป้องชิ้นส่วนของเครื่องยนต์

สาเหตุหลักที่ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพได้ง่ายนั้นมีหลายปัจจัยโดยเฉพาะสิ่งที่ปนเปื้อนในน้ำมันหล่อลื่น เช่น ฝุ่นละออง, เขม่า, น้ำ, เชื้อเพลิง รวมถึงการใช้งาน ความร้อน ความกดดัน และปัจจัยต่างๆ

การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ลุยน้ำเป็นเวลานานๆ ผู้ขับขี่จะต้องดูแลและสนใจเป็นพิเศษหลังการใช้งานในแต่ละวัน ปริมาณการปนเปื้อนของน้ำในเครื่องยนต์เพียงเล็กน้อย อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์ลดลง การดูแลรักษาจะช่วยให้รถของคุณสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา ไม่ต้องเข้าร้านเพื่อทำการซ่อมแซม

ฝากไว้นิดนึงเพราะเพิ่งประสบมากับตัวเองกับรถประเภทออโตเมติก ซึ่งในขณะกำลังขับขี่ลุยน้ำที่สูงเกือบเข่าบังเอิญมีรถสวนมาทำให้น้ำเข้าท่อไอเสียแล้วเครื่องดับช่วงนี้อย่ารีบสตาร์ตรถให้เข็นขึ้นที่แห้งหรือที่ไม่มีน้ำขังแล้วจับรถเอียงมาทางฝั่งที่มีขาสตาร์ตให้น้ำที่อยู่บริเวณภายในระบบออกมาให้หมดจะเห็นว่ามีน้ำไหลเป็นทางออกมา หลังจากน้ำหมดแล้วค่อยสตาร์ตรถโดยใช้ขาสแตนด์หยั่งรถไว้สักพักแล้วค่อยขี่ออกไปดีกว่า

ดูแลมอเตอร์ไซค์คันโปรดหลังลุยน้ำท่วม
www.siamsport.co.th/Motoring/111101_191.html
หลังจากได้แนะนำเคล็ดลับการดูแลรักษารถยนต์ในช่วงน้ำท่วมกันมาพอหอมปากหอมคอกันแล้ว ... ดูแลมอเตอร์ไซค์ หลังลุยน้ำท่วม Motorcycle Flood

http://auto.sanook.com/1425/เหยื่อน้ำท่วมสบายใจได้-ค่ายรถแห่อุ้มซ่อมฟรี/

Tuesday, November 1, 2011

ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม Flood Car

ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม Flood Car
ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม
www.oknation.net/blog/Tip2/2011/10/30/entry-3
ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม Flood Car Every minute is precious if every minute I have you. ทุกนาทีจะมีค่า หากทุกเวลาฉันมีเธอ.

- ล้างรถ รวมถึงการฉีดน้ำเข้าไปในบริเวณใต้ท้องรถและซุ้มล้อ เพื่อล้างเศษดินทรายที่ตกค้างหรือติดอยู่ออกให้หมด ซึ่งอาจมีเศษขยะหรือหญ้าแห้งติดอยู่ ที่อาจก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย เช่นเดียวกับกรณีของรถที่ติดตั้งตัวกรองไอเสีย หรือ CAT ที่ไม่แนะนำให้จอดในที่ที่มีหญ้าขึ้นสูง เนื่องจากอุณหภูมิของ Catalytic Converter ค่อนข้างสูง และอาจทำให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย

- พึงเอาไว้ว่าอย่าทำการสตาร์ทรถ หรือบิดกุญแจให้ไฟออนโดยเด็ดขาด จากนั้นเดินไปเปิดฝากระโปรงรถและปลดขั้วแบตเตอรี่ทันที โดยจะปลดขั้วใดขั้วหนึ่งหรือจะปลดทั้ง ขั้วบวกขั้วลบก็ได้ (จริงๆถ้าคุณคาดว่าน้ำจะท่วมสูงถึงห้องเครื่องให้เตรียมปลดขั้วแบตเตอรี่ เอาไว้ล่วงหน้าก่อนจะเป็นการดีที่สุด) เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟเข้าไปเลี้ยงระบบต่างๆของรถ รวมถึงเครื่องยนต์

- เปิดประตูออกทุกบาน ให้ลมโกรก หรือถ้ามีแดดให้จอดตากแดด จากนั้นถอดเบาะนั่ง พรม ผ้าต่างๆ ที่อยู่ภายในรถออกมาซักทันที เพราะถ้าทิ้งเอาไว้นาน ความเหม็นอับจะมาเยือน และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราและเชื้อโรคต่างๆ

- เริ่มเข้าสู่กระบวนการทางเทคนิคที่พอจะทำได้เอง คือ ปลดทุกอย่างที่เป็นขั้วไฟฟ้า ในกรณีที่เป็นเครื่องเบนซินให้ใช้ลมเป่าไปที่เบ้าหัวเทียนไล่น้ำออกให้หมดทุกซอกทุกมุม จากนั้นให้ถอดหัวเทียนออก ตรวจดูแผงฟิวส์ตัวฟิวส์ กล่องรีเลย์ต่างๆรวมทั้งกล่องอีซียูต้องถอดออกให้หมดตากแดดทิ้งไว้ ตรวจดูปลั๊กไฟใช้ลมเป่าทำความสะอาดทั้งหมด หรือใช้สเปรย์ไล่ความชื้นฉีดทิ้งไว้

- สำรวจน้ำมันเกียร์ ว่ามีสิ่งผิดปกติหรือไม่ คือถ้ามีลักษณะคล้ายสีชาเย็น นั่นแสดงว่ามีน้ำเข้าไปปะปนแล้ว ต้องรีบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทันที เช่นเดียวกับน้ำมันเกียร์ รวมถึงเปลี่ยนกรองอากาศ ซึ่งประเด็นนี้ใครทำเองได้ก็ทำเลย เพราะยิ่งจัดการเร็วโอกาสที่สนิมจะมาเยือนก็น้อยตามไปด้วย แต่ถ้าไม่ไหวก็ต้องเข้าศูนย์บริการหรืออู่ ซึ่งจะมีขั้นตอนการเปลี่ยนถ่ายที่ถูกต้องและละเอียดมาก

- เพลาขับ หากยางหุ้มเพลาขาดน้ำจะเข้าไปนำเอาจารบีออกไป ต้องอัด จารบีใหม่และเปลี่ยนยางหุ้มเพลาด้วย อีกอย่างหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ คือลูกปืนล้อทั้งหน้าและหลังที่มีอยู่ในรถทั่วไป ต้องนำออกมาล้างอัดจารบีใหม่แล้วใส่กลับคืนที่ด้วยการปรับใหม่ให้แน่นตามลำดับไม่แน่นเกินไปจนล้อหมุนฝืด

- ในกรณีที่เป็นเครื่องเบนซินให้ใช้ลมเป่าไปที่เบ้าหัวเทียนไล่น้ำออกให้หมดทุกซอกทุกมุม จากนั้นให้ถอดหัวเทียนออก ตรวจดูแผงฟิวส์ตัวฟิวส์ กล่องรีเลย์ต่างๆรวมทั้งกล่องอีซียูต้องถอดออกให้หมดตากแดดทิ้งไว้ ตรวจดูปลั๊กไฟใช้ลมเป่าทำความสะอาดทั้งหมด หรือใช้สเปรย์ไล่ความชื้นฉีดทิ้งไว้

- โคมไฟหน้าเลนส์ ไฟท้าย เบาะนั่ง พรมปูพื้น ที่ถอดออกมาตากแดดแห้งแล้วยังไม่ต้องรีบใส่ แม้ว่าส่วนประกอบอื่นๆจะแห้งดีแล้ว ให้เอารถออกตากแดดเปิดประตูรถทุกบาน พยายามให้แผงหน้าปัดรถตากแดดแรงๆเพื่อไล่ความชื้นออกจากแผงหน้าปัดให้หมด

- เมื่อแน่ใจว่าทุกอย่างแห้งสนิทดีแล้วค่อยใส่ทุกอย่างที่ถอดออกจากในห้องเครื่องเข้าที่ให้หมด ยกเว้นหัวเทียนในกรณีของรถเครื่องยนต์เบนซินหรือหัวฉีดในกรณีเครื่องดีเซล ให้ยกแบตเตอรี่เข้าที่ก่อนโดยใส่ขั้วแบตเตอรี่ เสียบกุญแจบิดกุญแจไปจังหวะแรก(จังหวะสำหรับตรวจมาตรวัดต่างๆก่อนสตาร์ทรถ) หากเกจ์วัดไหนยังไม่ทำงานอย่าเพิ่งกังวล ให้เปิดสวิตช์ค้างไว้แล้วลงมาตรวจสอบที่ห้องเครื่องยนต์ว่ามีควันหรือความร้อนอะไรเกิดขึ้นจากการใช้ไฟจากแบตเตอรี่หรือไม่ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีทุกอย่างปกติดีจึงค่อยบิดกุญแจปิดสวิตช์

- ตรวจสอบเบ้าหัวเทียนอีกครั้งว่ามีอะไรติดขัดหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่ หากดูแล้วว่าเรียบร้อยดีให้ลองสตาร์ทเครื่องใหม่ โดยคนหนึ่งบิดกุญแจส่วนอีกคนหนึ่งคอยเช็คที่รูหัวเทียน เมื่อเครื่องหมุน หากถ้ามีน้ำ น้ำจะถูกพ่นออกมาทางรูหัวเทียน ให้สตาร์ทต่อไปจนแน่ใจว่าน้ำถูกพ่นออกมาจนหมด ต่อไปก็ให้ใส่หัวเทียนเข้าที่ หากทำมาถูกต้องและไม่มีอุปกรณ์อื่นที่เสียหายรุนแรง เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ หากว่าได้ยินเสียงเครื่องยนต์ทำงานดังกระหึ่มขึ้นตามมา แสดงว่าทุกอย่างเป็นปกติ

วิธีการยกรถหนีน้ำ ด้วยการนำแม่แรงที่อยู่ภายในรถงัดรถให้สูงขึ้น จากนั้นให้นำก้อนอิฐไปค้ำล้อรถทั้ง 4 ล้อให้สูงเหนือระดับน้ำ ส่วนกรณีที่รถอาจต้องจมน้ำ ข้อแนะนำคือควรปิดกระจกให้แน่น หลังจากนั้นให้ถอดขั้วแบตเตอรี่ ขั้วบวกหรือขั้วลบออก เพื่อป้องกันระบบไฟฟ้าภายในรถช็อต

ภายหลังน้ำท่วมรถ ให้แกะลูกยางที่อยู่ใต้ท้องรถออก เพื่อเป็นการระบายน้ำที่ท่วมขังอยู่ภายในรถ

เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วมทั้งคันควรทำอย่างไร?

- ห้ามเปิดสวิตช์ไฟหรือสตาร์ตเครื่องเด็ดขาด และถอดสายแบตเตอรีออก

- ลากรถยนต์ออกจากน้ำให้เร็วที่สุด เพราะถ้าหากทิ้งไว้นานจะก่อให้เกิดความเสียหายบริเวณตัวรถเพิ่มขึ้น เมื่อรถจมน้ำทั้งคัน หลายคนเข้าใจว่าไฟฟ้าจะลัดวงจร แต่ในความเป็นจริงไฟฟ้ายังไม่ได้ลัดวงจรเพราะว่าไม่มีไฟฟ้าลงดิน แต่ความเสียหายจะเกิดขึ้นหลังจากที่ระบบอิเลคทรอนิกส์ต้องจมอยู่ในน้ำ และจะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อมอเตอร์ไฟฟ้า กล่องอีซียูซึ่งปัจจุบันใช้ระบบกล่องรวมที่ควบคุมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นแอร์ ไฟส่องสว่างและเครื่องยนต์

หลังจากกู้รถขึ้นจากน้ำแล้ว ข้อห้ามอย่างแรกที่สำคัญคือห้ามติดเครื่องยนต์เด็ดขาด จนกว่าจะตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่มีน้ำค้างในเครื่องยนต์ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายที่รุนแรง รถที่ถูกน้ำท่วมต้องเปลี่ยนถ่ายของเหลวและกรองต่างๆออก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีฝุ่นหรือดินโคลนค้างอยู่ การซ่อมบำรุงรถน้ำท่วมจะต้องทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญรถยี่ห้อนั้นจริงๆ เพราะแทบจะต้องประกอบใหม่ทั้งคันทีเดียว

ข้อปฏิบัติในการขับรถเมื่อน้ำท่วม และไอเดียรักษารถที่ใครๆก็ทำได้ : มติชน ...
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1318332863&grpid=no&catid=03&subcatid=0305
ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม. 1.ล้างรถ รวมถึงการฉีดน้ำเข้าไปในบริเวณใต้ท้องรถและซุ้มล้อ เพื่อล้างเศษดินทรายที่ตกค้างหรือติดอยู่ออกให้หมด ... ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม Flood Car

ขั้นตอนที่ควรทำทันที เมื่อรถยนต์ถูกน้ำท่วม Flood Car
http://th-th.facebook.com/notes/bb-lover/ดูแลรถหลังน้ำท่วม-เอาอีกครั้งอะไรบ้างที่ต้องซ่อม/285547778139294?ref=nf

สิ่งที่ควรถอดเมื่อน้ำท่วมฉับพลัน การถอดขั้วแบตรถ Car Battery

สิ่งที่ควรถอดเมื่อน้ำท่วมฉับพลัน การถอดขั้วแบตรถ Car Battery
ถอดขั้วแบตเตอรี่..จะมีสิ่งที่ตามมา
www.phithan-toyota.com/th74/article/detail/651/3
ถอดขั้วแบตเตอรี่..จะมีสิ่งที่ตามมา. หมวด การดูแลรักษารถ ข้าวของเครื่องใช้ที่มีอยู่บนโลกใบนี้ ... สิ่งที่ควรถอดเมื่อน้ำท่วมฉับพลัน การถอดขั้วแบตรถ Car Battery

สอบถามเรื่องแบตเตอรี่รถยนต์
www.klangbattery.com/faq.html
ถามมาตอบไป, การประจุไฟฟ้าสู่แบตเตอรี่ในครั้งแรกสุด ควรชาร์จนานเท่าใด ... A-----แบตเตอรี่ขั้วจมเตรียมไว้สำหรับรถยนต์ที่มีพื้นที่เหนือแบตเตอรี่น้อย ... 1 ครั้ง และถ้าจอดทิ้งไว้นานๆควรถอดขั้วแบตเตอรี่ออกพร้อมเคลือบขั้วด้วยน้ำมันเครื่องหรือจารบี เพื่อให้แบตเตอรี่มีการคาย ... สิ่งที่ควรถอดเมื่อน้ำท่วมฉับพลัน การถอดขั้วแบตรถ Car Battery



สอบถามวิธีการถอดขั้วแบตเตอรี่
http://www.thaimazda3.com/forum/index.php?s=cdf9e47ea1feec85c5ccb270cf3f9d9c&showtopic=36776
สอบถามวิธีการถอดขั้วแบตเตอรี่ ... สอบถามหน่อยครับ ถอดขั้วแบตเตอรี่ยังไง ให้มันง่าย ๆ ... สีรถ: n/a. ถอดขั้ว - ออกก่อน แล้วค่อยถอดขั้ว + เวลาใส่ ให้ใส่ขั้ว+ ... สิ่งที่ควรถอดเมื่อน้ำท่วมฉับพลัน การถอดขั้วแบตรถ Car Battery

การบำรุงรักษารถยนต์
www.chuansin.com/doctorcar/maintenance14.html
สนิมรถยนต์ | การดูแลบำรุงรักษาแบตเตอรี่ | วิธีการรักษาสีรถ | .... วิธีแก้:: แก้ไขโดย ถอดขั้วออกใช้น้ำร้อนเททำความสะอาด เสร็จแล้วทาที่ขั้วด้วยจารบี วิธีป้องกัน:: ตรวจสอบ ... สิ่งที่ควรถอดเมื่อน้ำท่วมฉับพลัน การถอดขั้วแบตรถ Car Battery

สิ่งที่ควรถอดเมื่อน้ำท่วมฉับพลัน การถอดขั้วแบตรถ Car Battery
http://www.legendnews.net/index.php?lay=show&ac=article&Id=539349509&Ntype=87

วิธียกรถให้พ้นน้ำท่วม Car Flood

วิธียกรถให้พ้นน้ำท่วม Car Flood
การตรวจเช็ครถยนต์ ...หลังสถานะการณ์น้ำท่วม/รถจมน้ำ
http://www.softbizplus.com/general/570-the-problem-after-the-flood-car
ตอนนี้เราไปดูกันบ้างว่า ถ้ารถจมน้ำเข้าให้ ไม่ว่าจะจำใจ จงใจ ไม่ตั้งใจนั้น เราควรจะทำอย่างไร? ... เราก็ควรถอดสายไฟยกแบตเตอรี่ขึ้นที่สูงบนบ้านบนเรือนก่อน? ... ถึงจะขับพ้นตรงที่น้ำท่วมได้ด้วยความเร็วจนน้ำกระจายเป็นปีกไปสาดรถอื่นเขาได้สนุกดีนั่นน่ะ??? เผลอ ๆ ... วิธียกรถให้พ้นน้ำท่วม Car Flood



รวมวิธีเตรียมตัวรับน้ำท่วมด้วยตนเอง ปี 2554
http://tawanth.wordpress.com/2011/10/11/รวมวิธีเตรียมตัวรับน้ำ/
Rising Rivers And Tributaries Continue To Flood Southern Communities And Farm Land .... เพื่อให้น้ำที่ท่วมทะลักสามารถไหลไปตามลำน้ำได้สะดวกหรือช่วยให้กระแสน้ำไหลเร็วยิ่งขึ้น .... หรือได้ข้อมูลน้ำจะท่วมสูงเท่าใดเพื่อจะได้เตรียมยกของให้พ้นจากระดับน้ำท่วม. 2. ... หรือ คลิกดาวน์โหลดไฟล์ บก.02 แนะนำจุดจอดรถกรณีน้ำท่วม ... วิธียกรถให้พ้นน้ำท่วม Car Flood

วิธียกรถให้พ้นน้ำท่วม Car Flood
http://hatyaicityclimate.org/paper/40

Thursday, October 27, 2011

น้ำท่วมแค่ไหน ขับรถได้ ขับรถไม่ได้ Flood Car

น้ำท่วมแค่ไหน ขับรถได้ ขับรถไม่ได้ Flood Car
1. ระดับน้ำ 5-10 เซนติเมตร ระดับน้ำนี้ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น และไม่สามารถส่งผลต่อการเดินทางของรถ และระดับน้ำระดับนี้มักเจอเป็นประจำเมื่อพบน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งระดับนี้เป็นระดับที่ปลอดภัย สามารถผ่านได้ ทั้งรถเก๋งและรถกระบะ ไร้ปัญหา

2. ระดับน้ำ 10 - 20 เซนติเมตร ในกรณีเราเจอน้ำท่วมขังในพื้นที่มากในระดับน้ำประมาณครึ่งฟุตนี้ ถือว่ายังไม่สามารถทำอะไรรถยนต์ได้ ยังสามารถผ่านไปได้ตามปกติ ทั้งรถเก๋งและรถกระบะ โดยในส่วนของรถเก๋ง อาจจะมีปัญหาเล็กย้อย เพราะคุณอาจจะได้ยินเสียงน้ำนั้น กระเพื่อมอยู่ที่ใต้ท้องรถบ้าง แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสามารถเดินเครื่องไปต่อได้เรื่อยๆ และในกรณีขับรถสวนกันก็อาจจะมีคลื่นที่สูงบ้าง แต่ไม่มากมายนัก ตรงนี้ยังปลอดภัย

3. ระดับน้ำ 20 -40 เซนติเมตร ตรงนี้รถเก๋งอาจจะเริ่มมีปัญหา เรานี่คือระดับขอบประตูรถเก๋งเกือบแทบทุกรุ่นในปัจจุบันที่มีระยะสูงจากพื้น 150-170 ม.ม. เท่านั้น ระดับที่ท่วม 3 ใน 4 ของล้อรถนั้น ส่งผลให้ท่อไอเสียนั้นจะจมนั้นอยู่เกือบตลอดเวลา แต่ก็ยังพอไปได้ถ้าทางนั้นไม่ยาวมากนัก แต่ถือว่าเริ่มเสี่ยงมาก อาจจะมีได้พรมแฉะกันบ้างล่ะ โดยเฉพาะรถกลุ่มซิตี้คาร์ ส่วนรถกระบะทั่วไปสามารถผ่านได้ ยกสูง ขับ 4 ยังสบายใจได้อยู่

4. ระดับน้ำ 40 -60 เซนติเมตร ระดับนั้นประมาณ 2 ฟุตนั้น ถือเป็นอันตรายสำหรับรถเก๋ง ทุกรุ่นทุกประเภท ไม่สมควรผ่านอย่างยิ่งหาทางเลี่ยงนับว่าจะเป็นวิธีการที่ดีสุดครับ ในระดับเดียวกันนี้รถปิกอัพทั่วไปนั้น ก็เริ่มมีลุ้นพอสมควร แต่ถ้าเดินเครื่องไปเรื่อยๆ ยังสามารถไปได้ เพียงแค่ต้องระวังเรื่องของคลื่นน้ำ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างฉับพลัน และอาจะเข้าเครื่องได้ ระดับน้ำขนาดนี้ต้องปิดระบบปรับอากาศขับเท่านั้น ส่วนรถกระบะยกสูงทั่วไปนั้นสามารถผ่านได้ ไม่มีปัญหา แต่ก็ต้องระวังเรื่องคลื่นเช่นกัน

5. ระดับน้ำ 60-80 เซนติเมตร ระดับน้ำขนาดนี้เป็นเรื่องอันตรายกับรถทุกประเภท ไม่เว้นกระทั่งรถใหญ่ทั้งหลาย เพราะน้ำนั้นอาจจะมีสิทธิไหลเข้ากรองอากาศได้ง่ายกว่า ยิ่งเจอคลื่นนั้นอาจจะสูงถึงระดับ 1 เมตร ที่สามารถทำให้เครื่องยนต์หยุดชะงักและสร้างความเสียหายต่อระบบต่างๆได้ การลุยน้ำท่วมระดับนี้ ต้องใช้ความชำนาญการเป็นพิเศษพอตัว ที่สำคัญ พยายามอย่าปะทะคลื่นโดยตรง เพื่อหลีกเลี่ยงเครื่องดับกลางอากาศ และอย่าใช้ความเร็วสูงนัก

6. ระดับน้ำสูงเกินกว่า 80 เซนติเมตร ระดับน้ำที่มากที่สุดที่รถเดิมๆจากโรงงานจะสามารถผ่านได้และก็ไม่ใช่ทุกรุ่นเสียด้วย ตามปกติ ระดับน้ำ 80 ซ.ม. นั้นหมายถึงน้ำขึ้นถึงฝากระโปรง ท่วมไฟหน้ามิดสิ่งสำคัญคือปิดระบบไฟต่างๆ เพื่อป้องกันการลัดวงจรเดินเครื่องอย่างต่อเนื่องอย่าหยุด แต่ถ้าอยากให้ปลอดภัย น้ำระดับนี้ ควรมากับรถลุยที่มีการปรับแต่งยกสูงจากปกติประมาณ 2-4 นิ้ว จะมั่นใจกว่า

http://auto.sanook.com/3002/รู้จักระดับน้ำท่วม-ขนาดไหน-ที่คุณต้องช่างใจ...เมื่อขับรถ/

Friday, October 21, 2011

ขับรถ ลุยน้ำท่วม ทำอย่างไร Flood Car

ขับรถ ลุยน้ำท่วม ทำอย่างไร Flood Car
1.ห้ามขับรถเร็ว เส้นทางน้ำท่วมนั้นนับเป็นอุปสรรคที่สำคัญที่ท้าทายอย่างมากสำหรับนักขับ และสิ่งที่สำคัญเมื่อคุณใช้เส้นทางที่เต้มไปด้วยน้ำนั้นคือห้ามขับรถเร็ว เหตุผลที่เราไม่แนะนำให่คุณขับรถเร็วนั้น ก็เพราะ 1.น้ำอาจจะกระเด็นใส่คนอื่นๆ หรือ เพื่อนร่วมทาง ซึ่งคุณอาจจะโดนสาบแช่งตามหลังได้ และ 2.เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ เนื่องจากน้ำท่วมนั้น อาจทำให้การเบรกให้หยุดนั้นมีประสิทธิภาพลดลง เช่นเดียวกับระยะเบรค ที่เกิดจากการสัมผัสผิวถนนนั้นทำได้ยากขึ้น ทำให้ลื่นยิ่งขึ้น

2.อย่าเร่งเครื่องแรง ในการลุยพื้นทีน้ำท่วมนั้น ตามปกติของการลุยอุปสรรคทั้งหลายนั้น เรามักจะใช้กำลังเครื่องเดินเบามากกว่าใช้การเร่งเครื่องเพื่อผ่านอุปสรรค ซึ่งการเดินเบานี้เราเรียกว่า Walking Speed ซึ่งตามหลักการทำงานของเครื่องยนต์แล้ว ยิ่งเราเร่งเครื่องมาก เครื่องยนต์ก็จะยิ่งต้องการอากาศมากเพื่อไปใช้ผสมกับอัตราการจ่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และถ้าคุณลุยน้ำในระดับสูง แล้วเร่งเครื่องรอบสูงผลก็คือ เครื่องยนต์อาจจะดูดน้ำเข้าไป และท้ายที่สุดเครื่องยนต์อาจจะดับได้

3.พยายามอย่าใช้เบรก เบรกรถนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญในการเดินทางและในพื้นที่น้ำท่วมนั้นพยายามลดการใช้เบรค แต่ให้ใช้แรงเฉื่อยของเครื่องยนต์ในการหยุดรถหรือชะลอความเร็ว ยิ่งเมื่อรวมกับมวลของน้ำแล้วนั้น เราก็จะพบว่า การลดความเร็วในพื้นที่น้ำท่วมนั้นสามารถทำได้ง่าย แม้ไม่ใช้เบรค ที่สำคัญอย่าวิ่งติดกับคันหน้า ควรเว้นระยะห่างสัก2 ช่วงคัน รถ เพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะ ในกรณีที่คันหน้าอาจจะเสีย เราจะได้ไม่ติดท่ามกลางสายน้ำ

4.พยายามอย่าใช้คลัทช์ คลัทช์นั้นเป้นตัวตัดต่อกำลังเคร่องยนต์ และ แม้คลัทช์จะเป็นอุปกรณ์ภายในที่อยู่ระหว่างท้ายเครื่องยนต์และชุดเกียร์ แต่ก ใครที่ขับรถเกียร์ธรรมดาในน้ำท่วมแล้วคิดจะต้องย้ำคลัทช์เพื่อให้ให้รถดับนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง เนื่องจากทุกครั้งที่ย้ำคลัทช์ เครื่องจะเร่งแรงเพิ่มขึ้นทำให้ เครื่องอาจจะดูดน้ำเข้าไปได้ และอีกประการคือ น้ำมีแรงดันซึ่งอยู่ที่ล้อ ยิ่งน้ำลึก ยิ่งทำให้ยากต่อการหมุน ซึ่งหมายถึงคลัทช์จะต้องรับแรงในการเชื่อมต่อมากขึ้นจากเดิม ซึ่งผลคือสามารถทำให้คลัทช์รถนั้นไหม้ได้ ดังนั้นทางที่ดีเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมก่อนลงน้ำ ครับ

5.อย่าสร้างคลื่นน้ำ คลื่นน้ำคือตัวอันตรายที่สำคัญที่สุดในการทำให้รถนั้นสามารถดับกลางอากาศได้ระหว่างลุยน้ำท่วม และนับเป็นเรื่องสำคัญมากๆ การที่เราวิ่งรถในพื้นที่น้ำท่วมนั้น เราไม่ปฏิเสธว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงการทำให้ไม่เกิดคลื่นไม่ได้ แต่เราสามารถรถผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่ากับรถตัวเอง หรือรถคันอื่นๆก็ตาม และทางที่ดี เมื่อพบว่ามีรถสวน ก็ให้ลดความเร็วลง ถ้าเห็นว่ารถคันที่สวนมามาเร็ว ลิฟไฟส่งสัญญาณสักนิด ก็ดีใช่น้อย แต่หาก รถอีกคันมาแรงคืล่นมาสูงมาก ให้เราเร่งความเร็วเพิ่ม เพื่อทำให้เกิดคลื่นปะทะ ก่อนที่หน้ารถเราจะผ่านคลื่นน้ำนั้น อย่าเหวี่ยงรถหนี เพราะ คลื่นสามารถดันรถ อาจทำให้คว่ำได้โดยเฉพาะรถยกสูง

6.อย่าเหวี่ยงรถกะทันหัน หลายครั้งที่เราขับรถในพื้นที่น้ำท่วมนั้น เราไม่ปฏิเสธว่า อาจจะมีเซอร์ไพร์ส กับหลุมที่เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำ แต่ถ้าคุณเห็นในระยะกระชั้นชิดแล้วเตรียมที่จะหักหลบหนี อย่าทำโดยเด็ดขาด เพราะพื้นถนนมีแรงยึดเกาะต่ำ ยิ่งถ้าคุณมาเร็วมาก อาจจะเป็นต้นเหตุทำให้รถคว่ำเอาได้ง่ายๆ

ขับรถ ลุยน้ำท่วม ทำอย่างไร Flood Car
http://auto.sanook.com/2996/6-เรื่องไม่ควรทำ-เมื่อขับลุยน้ำท่วม/

Monday, October 17, 2011

ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera Test Drive

ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera Test Drive
Nissan Almera Club No.1 นิสสัน อัลเมร่า New Nissan Almera ราคา รีวิว ...
almerathailand.com/
Nissan Almera Club No.1 นิสสัน อัลเมร่า New Nissan Almera ราคา รีวิว ทดสอบ ทดลองขับ Test Drive เปิดตัว โปรโมชั่น ของแถม ออกรถ Almera. ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera Test Drive

ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera Test Drive แรกที่ได้เห็นจากสายตา ภายนอก มันคือรถขนาดเดียวกับ Vios หรือ City ทีเดียว ภายนอกก็ดูทันสมัย มองดูรวมๆ ก็กลมกลืนดี หากเอาไปโหลดนิด ใส่หางปลาวาฬ ใหญ่ขึ้นหน่อย รุ่นนี้น่าจะแต่งภายนอกได้สวยทีเดียว
แต่อย่าลืม เครื่อง 1200 ซีซี แต่งสวยได้ แต่เอาแรง คงไม่ได้ ครับ

ส่วนภายใน สไตล์ โทนดำ ต้องบอกว่า ตกแต่งเหมือน พยายามลดต้นทุน และให้คนซื้อรู้สึกได้ ว่านี่ อีโคคาร์ นะเฟ้ย แต่เมื่อเทียบกับโซลูน่าที่ใช้อยู่ (รถประหยัดต้นทุน รุ่นแรก) ต้องบอกว่า ดีกว่าน้องฟ้านิดหน่อยครับ ไม่ถึงกับเลวร้ายอะไรมาก

ที่สำคัญ ทันทีที่ได้นั่งด้านคนขับ โอ้ว มันกว้างใช้ได้ทีเดียว สูง 173 ซม. นั่งสบาย ลองถอยเบาะไปด้านหลังสุดราง แล้วไปนั่งหลังคนขับ นั่งได้ครับ ขาไม่ติด แต่จุดที่เป็นข้อสังเกตุ คือ ศรีษระ ผมจ่อเพดานเลย อันเกิดมาจากหลังคา น้องอัลมีร่า สโลปมาที่ท้ายมาก คนนั้งต้องสไลด์ก้น เดินหน้านิดนึง ก็จะห่าง ในระดับที่ปลอดภัยเมื่อ รถขึ้นคอสะพาน

สรุปด้านหลังนั่งสบายมาก สูงไม่เกิน 170 ซม. เข่าไม่ติด กว้างกว่า วีออสด้วยซ้ำ (ความรู้สึกผมเอง หลังจากไปนั่งวีออส)

เอาหล่ะ ได้เวลา ลองแล้ว รถที่ทดสอบ เป็นรุ่น VL ตัวท้อป ใช้Push start เพียงกดรีโมท เปิดประตูแล้ว ก็เก็บกุญแจใส่กระเป๋าเสื้อได้ กดปุ่มสตาร์ทได้เลย สะดวกดี

สัมผัสแรก หลังเครื่องติด คือ พวงมาลัย ถูกเซ็ทมาเบามาก มือเดียวควงพวงมาลัย สบาย เหมาะสำหรับคุณผู้หญิงขับในเมือง โยกจอดได้ง่ายขึ้น การออกตัว นั่งสามคน ประมาณ 85+60+55 =200 กก.

การออกตัวไม่ต่างกับ รถโซลูน่าที่ใช้อยู่ เมื่อความเร็วเพิ่มไประดับ 50 กม./ชม. เห็นรถว่าง ก็กดคันเร่งทันที เครื่องยนต์คำรามดังพอควร ความเร็ว ไปที่ 110 กม ได้ไม่ยาก ไม่ได้อืดมากอย่างที่คิด แต่เสียงคำราม นี่แผดก้องทีเดียว เพราะเครื่องเล็ก คงต้องทำงานหนักมากกว่า 1500ซีซี

ที่สัมผัสได้จากความเร็ว 110กม/ชม. นั้น คือ พวงมาลัยเบาไปนิด แต่ไม่มีถนนให้ไปต่อแล้ว ต้องชะลอความเร็ว แล้วกลับรถ เพื่อกลับศูนย์

สรุประยะทดสอบ 10 กม. ก็ให้ความรู้สึกดี หลายอย่าง อยากสรุปให่ผู้ที่สนใจรุ่นนี้อยู่ดังนี้
1. เป็นรถเล็ก ที่กว้างมาก ขนาดพอๆกับวีออส ด้านเบาะหลัง กว้างกว่าด้วยซ้ำ (ไปดูวีออสเทียบมา แต่ยังไม่ได้ลองขับ เซลล์บอกรถไม่อยู่ งง )
2. พวงมาลัย เบามือ ขับในเมือง คล่องตัว มากขึ้น
3. วัสดุอุปกรณ์ ไม่ได้ถึงขนาดแย่ แต่จะเรียกว่าดี คงไม่ได้ เอาเป็นว่าสมราคา
4. ราคา รุ่นที่คุ้มเงิน ผมว่า รุ่น ES มีแอร์แบ็ก ให้ด้านคนขับ พร้อมABS แล้ว ราคา 523,000 (หักคืนภาษี 73,000 เหลือเพียง 450,000 บาท) หรือ รุ่น V 563,000 (หักคืนภาษี 79,000 เหลือเพียง 484,000 บาท) มีแอร์แบ็ก 2ใบ ระบบควบคุมบนพวงมาลัย ส่วน พุชสตาร์ทในรุ่น VL ผมไม่ค่อยคุ้น เลยไม่ชอบเท่าไหร่
5.เหมาะวิ่งในเมืองเป็นประจำ ออก ตจว.ปีละสามสี่ครั้ง
6. ท้ายรถ กว้างมาก กว้างจริงๆ

ส่วนข้อด้อยเท่าที่เจอ
1. วัสดุ ตกแต่ง เรียบไปหน่อย คงต้องซื้อมาใส่หลายอย่าง ชายบันได ไฟเลี้ยวกระจกมองข้างเป็นต้น แม้แต่เบาะ ก็ผ้าแบบพื้นๆ
2. เบาะหลัง คนสูง เกิน 173 ซม. ต้องนั่งสไลด์ก้นไปด้านหน้า ดีที่สุด ใครสูงไปนั่งหน้าดีกว่า
3. คนเท้าหนัก ไปเลือก 1500 เลย มันสร้างมาเพื่อขับในเมือง ไม่ได้ให้คุณกระทืบได้ตามใจทุกเวลา
4. กระจกมองข้าง เล็กมาก ทั้งๆทีออกแบบโครงด้านหลังกว้างใหญ่ แต่หน้ากระจก เหลือ2 ใน 3 มันออกแบบอย่างงี้ได้ไงเนี่ย
5. ของแถมน้อยมากกกกกก 6000 บาท

ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera Test Drive
ข้อมูล Pantip.com
http://almerathailand.com/index.php/topic,215.msg1335/topicseen.html#new

นิสสัน อัลเมร่า | Nissan Almera Club
www.almera-club.com/tag/นิสสัน-อัลเมร่า/
Nissan Almera Club. นิสสัน อัลเมร่า คลับ. ยินดีต้อนรับสู่ "อัลเมร่าคลับ" ชุมชนคนรักรถยนต์นิสสันอัลเมร่า. http://www.facebook.com/pages/Nissan-Almera- ... ทดลองขับ นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera Test Drive

Wednesday, October 12, 2011

นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera อีโค่คาร์ 4 ประตู

นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera อีโค่คาร์ 4 ประตู
เปิดตัวพร้อม ราคา Nissan Almera 2011 นิสสัน อัลเมร่า รถยนต์อีโคคาร์ 4 ...
http://www.autospinn.com/2011/10/ราคา-nissan-almera-นิสสัน-อัลเมร่า-eco-car-อ/
เปิดตัวพร้อมราคา Nissan Almera รถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตูคันแรกของไทย. by admin ... นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เปิดตัวนิสสัน อัลเมร่า ใหม่ รถยนต์อีโคคาร์ 4

ภายนอกสวยสด งดงามในแบบ Teana ย่อส่วน

นิสสันอัลเมร่าใหม่นั้น มาพร้อมเส้นสายการออกแบบที่มุ่งเน้นในการตอบโจทย์ในความหรูหรากับรถขนาดซิตี้คาร์ในตัวถังเรือนร่างไซส์เล็กเกือบกลางหรือ B+ ที่ตอบสนองด้วยความยาว 4425 ม.ม. กว้าง 1695 ม.ม. และสูง 1500 ม.ม. ให้อารมณ์เดียวกับรถคอมแพ็คคาร์ แต่มาพร้อมเส้นสายความหรูหราที่สื่อสารตั้งแต่ใบหน้า ที่มาพร้อมกระจังหน้าโครเมี่ยม ให้ความหรูหรา รับเข้ากับโคมไฟที่ได้รับการถ่ายทอดให้ดูเหมือนสายตาที่จับจ้องไปยังถนน อาจจะมองแล้วแปลกตา แต่ก็เข้าท่าดี

เส้นสายการออกแบบถ่ายทอดมายังฝากระโปรงพุ่งทะยานสู่หลังคา ที่ออกแบบ ด้วยทรวดทรงเดียวกับรถสปอร์ตคูเป้ แต่มาพร้อมเรือนร่าง 4 ประตู จรด บั้นท้าย ลงตัวกับไฟท้ายดีไซน์สุดเท่ห์ที่สำคัญยังให้สปอร์ยเลอร์ท้ายทุกรุ่น ที่ยังมาพร้อมล้อขอบ 15 นิ้วดูลงตัวเข้าที

ตัวรถที่ดุยาวๆนี้ ทำให้เรานึกถึงเก๋งกลางรุ่นใหญ่ Nissan Teana ที่ค่อนขเงจะมีลักษณะคล้ายคลึงกัน ด้วยรูปลักษณ์ตัวตนเส้นสาย แต่นิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) เน้นถ่ายทอดในแบบรถหรูสุดประหยัดมากกว่า ที่ยังถูกต้องตามหลักอากาศพลศาสตร์และมันมีค่าสัมประสิทธิเสียทานเพียง 0.29 cd เท่านั้น
นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera อีโค่คาร์ 4 ประตู นิสสัน อัลเมร่า Nissan Almera อีโค่คาร์ 4 ประตู
ห้องโดยสารลูกเล่นเพียบ แอบแต้มความหรู
เมื่อเปิดประตูยลโฉมห้องโดยสารนิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) ใหม่ตอบโจทย์การออกแบบด้วยดีไซน์ที่แปลกตา ถ้าคุณกำลังคิดว่า มันคือ นิสสัน มาร์ช 4 ประตู นั้น ก็บอกได้เลยว่าไม่ใช่ เพราะนิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) เป็นรถเก๋งที่เน้นตอบโจทย์ทางด้านความหรูหรามากกว่า โดยเฉพาะการขยายฐานล้อขนาด 2600 ม.ม. ที่อยู่ในระดับเดียวกับรถยนต์ขนาดคอมแพ็คคาร์นั้น แต่ยังตอบสนองวงเลี้ยว 5.2 เมตรนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาในประสบการณ์การขับขี่

เรือนร่างที่ใหญ่กว่าชาวบ้านทำให้ นิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) ได้เปรียบในเรื่องการโดยสาร โดยเฉพาะพื้นที่ในเบาะหลังนั้น ให้ระยะวางขาดียิ่งขึ้นเทียบเท่าระดับรถหรู 636 ม.ม. และยังมีความยามห้องโดยสารถึง 1836 ม.ม. จนสามารถเทียบชั้นกับรถหรูหลายๆรุ่นได้

เราได้มีโอกาสแอบไปนั่งทางด้านหลังดู ด้วยตัวผมสูง 182 ซ.ม. ยังมีพื้นที่มากพอสำหรับหัว ส่วนด้านหน้า โปร่งโล่งสบายทั้งฝั่งคนขับและคนนั่ง ซึ่งมีพื้นที่อีกคืบกว่าในการรองรับ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความอึด

ห้องโดยสารโดยรวมนั้นใช้สีดำเพื่อให้ดูคมเข้มสปอร์ตยิ่งขึ้น แล้วตบแต่งคู่กับสีเงินมาพร้อม ชุดพวงมาลัย 3 ก้าน ที่บนพวงมาลัยยังสามารถปรับระบบเครื่องเสียงได้ด้วย ทุกอย่างทั้งเครื่องเสียงและระบบปรับอากาศถูกวางเอาไว้ที่ตรงกลาง ลงตัวกับคันเกียร์ โดยเฉพาะ เกียร์อัตโนมัติ ดีไซน์หัวเกียร์ได้เก๋ไก๋ไม่ซ้ำ ส่วนด้านท้ายรถในส่วนห้องสัมภาระนั้นจุได้ 490 ลิตร

สมรรถนะได้อยู่ เน้นความเบาจากขุมพลังประหยัด
ใต้ฝากระโปรงด้วยความที่ นิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) ถูกปลุกปั้นขึ้นมาให้มันเป็นรถอีโค่คาร์ถูกใจตลาดในปัจจุบัน ที่มีกระแสต้องการยานยนต์ประหบัด ลงตัวในความสะดวกสบายนั้น นิสสัน จึงแนะนำเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า มาเป็นหัวใจในการขับเคลื่อน นิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) ใหม่ ที่หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันจะขับสนุกหรือไม่

ถ้ามองกันตามความจริงแล้ว เครื่องยนต์ HR 12DE ของ นิสสัน นั้นเป็นเครื่องยนต์ที่มุ่งเน้นในการสร้างกำลังแรงบิดมากกว่า ด้วยห้องเผาไหม้แบบช่วงชักยาวขนาด กระบอกสูบ 78 .0 ม.ม. มีช่วงชัก 83.6 ม.ม. เรียกแรงบิดสูงสุด 106 นิวตันเมตรตั้งแต่ 4400 รอบต่อนาที มาพร้อมแรงม้าที่ 79 กิโลกรัม ที่ดูแล้วอาจจะเหมือนน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับขนาดของรถ แต่ด้วยการออกแบบ V-platform ทำให้ นิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) นั้นมีน้ำหนักเบาเพียง 962 กิโลกรัม และสูงสุดที่ 1027 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อรวมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ Xtronic CVT และการออกแบบที่มุ่งเน้นหลักอากาศพลศาสตร์อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วนั้น มันก็น่าจะวิ่งได้ดีใช่น้อย แต่อาจจะไม่สามารถตอบสนองการขับขี่แบบสปอร์ตเต็มรูปแบบได้ ทว่านั่นคือคำถามที่เราค้องไปหาคำตอบกันในตอนขับทดสอบกันต่อไป

ขุมพลังบล็อกเล็ก 1.2 ลิตร ที่ให้ความประหยัดอยู่แล้วนั้น ถูกพัฒนาให้ตอบสนองความประหยัดดียิ่งขึ้น ด้วยเทคโนโลยี Pure Drive ช่วยให้อากาศสะอาปล่อยไอเสียเพียง 120 กรัม/กิโลเมตร และในรุ่นเกียร์อัตโนมัติทุกรุ่นยังมาพร้อมระบบ Idling Stop หรือหยุดการทำงานเครื่องยนต์รอบเดินเบาชั่วคราว

ระบบIdling Stop หรือหยุดการทำงานเครื่องยนต์รอบเดินเบาชั่วคราว นั้นเป็นระบบที่ถูกติดตั้งเข้ามาตั้งแต่ Nissan March แล้ว แต่ในครั้งนี้โดดเด่นมากยิงขึ้น โดยคุณสามารถเลือกที่จะปิดระบบได้ และการใช้งานก็สะดวกมากขึ้น เพียงแตะเบรก ปลดไปยังเกียร์ N หรื ขยับพวงมาลัยเล็กน้อย ระบบก็จะทำการดับเครื่องยนต์เอง แต่ถ้าเมื่อไรระบบดับเกิน 3 นาทีก็จะกลับมาสตาร์ทเองอัตโนมัติ ซึ่งในระหว่างที่เครื่องยนต์ดับนั้น ระบบไฟฟ้าจะทำงานตามปกติ ไม่มีปัญหา โดยเฉพาะที่หลายคนกังวลคือเรื่องระบบปรับอากาศก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน เพราะแม้คอมเพรซเซอร์จะตัดการทำงานแต่น้ำยาแอร์ยังอยู่ ในระบบสามารถทำงานได้เหมือนปกติทุกประการ



ทั้งนี้ นิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) ใหม่เป็นรถอีโค่คาร์ที่มาพร้อมหลากเทคโนโลยีสำคัญเหมาะกับคนที่มองหาความลงตัวในรถยนต์รุ่นใหม่สำหรับใช้ในเมือง โดยราคาจำหน่ายเริ่มที่ 429,000 บาท และสูงสุด 599,000 บาท

ราคาจำหน่าย นิสสัน อัลเมร่าใหม่ (Nissan Almera)
นิสสัน อัลเมร่าใหม่ (Nissan Almera) 1.2 S M/T 429,000 บาท
นิสสัน อัลเมร่าใหม่ (Nissan Almera) 1.2 E M/T 455,000 บาท
นิสสัน อัลเมร่าใหม่ (Nissan Almera) 1.2 E A/T CVT 489,000 บาท
นิสสัน อัลเมร่าใหม่ (Nissan Almera) 1.2 ES A/T CVT 523,000 บาท
นิสสัน อัลเมร่าใหม่ (Nissan Almera) 1.2 V A/T CVT 563,000 บาท
นิสสัน อัลเมร่าใหม่ (Nissan Almera) 1.2 E A/T CVT 599,000 บาท

http://auto.sanook.com/2961/นิสสัน-อัลเมร่า-...ความสุขที่กว้างกว่า-จาก-อีโค่คาร์-4-ประตู/

นิสสัน อัลเมร่า (Nissan Almera) ..อีโค่คาร์ 4 ประตู | Nissan March ราคา ...
www.marchecocar.com/นิสสัน-อัลเมร่า-nissan-almera-อีโค่ค/
ค่ายรถยนต์ Nissan ก็กลับมาอีกครั้งกับรถยนต์ อีโค่คาร์รุ่นที่ 2 ในแบบ 4ประตู นิสสัน อัลเมร่าใหม่ (Nissan Almera)

Tuesday, October 11, 2011

ข้อปฏิบัติ ขับรถ น้ำท่วม ขับรถ ลุยน้ำ Flood Car

ข้อปฏิบัติ ขับรถ น้ำท่วม ขับรถ ลุยน้ำ Flood Car
5 เทคนิคขับรถลุยน้ำท่วม
http://auto.sanook.com/item/2858-5-เทคนิคขับรถลุยน้ำท่วม.html
เปิด 5 วิธีขับรถลุยน้ำท่วมระดับต่างๆ รับหน้าฝน. ... การรักษาระดับความเร็วของรถโดยขับให้ช้าที่สุดเท่าที่จะทำได้น้ำที่ถูกล้อรถรีด ... ข้อควรปฏิบัติเมื่อประสบภัย 4 ต. ... ข้อปฏิบัติ ขับรถ น้ำท่วม ขับรถ ลุยน้ำ Flood Car

ข้อควรปฏิบัติขับรถช่วงน้ำท่วม
http://www.singburinews.com/blog/2011/10/ข้อควรปฏิบัติขับรถช่วงน้ำท่วม/
สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังจากขับรถยนต์ลุยน้ำ และข้อควรปฏิบัติหลังขับรถบนถนนที่มีน้ำท่วม 6 ประการ ของผู้ขับขี่รถยนต์ในพื้นที่น้ำท่วมขัง ... ข้อปฏิบัติ ขับรถ น้ำท่วม ขับรถ ลุยน้ำ Flood Car


สิ่งที่ควรปฏิบัติหลังจากขับรถยนต์ลุยน้ำ และข้อควรปฏิบัติหลังขับรถบนถนนที่มีน้ำท่วม 6 ประการ ของผู้ขับขี่รถยนต์ในพื้นที่น้ำท่วมขัง

เทคนิคขับรถลุยน้ำท่วม
banrasdr.com/showthread.php?tid=36888
http://board.banrasdr.com/showthread.php?tid=36878 เครดิตคุณ derapex ห้องไร้การเมืองค่ะ เทคนิคขับรถลุยน้ำท่วม อ่านจากหลายๆแหล่งนะครับแล้วสรุปๆเอามาฝากครับ 1. ... ข้อปฏิบัติ ขับรถ น้ำท่วม ขับรถ ลุยน้ำ Flood Car

ขับรถลุยน้ำท่วม รถดับ
www.watcharaaircon.com/?p=2024
รถดับเพราะน้ำท่วม อาจเกิดขึ้นกับใครหลายๆคนมาแล้วนะครับ ... เช่น ต้องพาคนป่วยไปหาหมอ คนใกล้ตายแล้ว ยังงี้ก็คงต้องผ่าไปแหละครับ แต่ขับรถยนต์อย่างเมื่อน้ำท่วม ควรปฏิบัติดังนี้. ขับรถตอนน้ำ ... เมื่อพารถยนต์ของคุณผ่านวิกฤตน้ำท่วมรถมาได้แล้ว ... ข้อปฏิบัติ ขับรถ น้ำท่วม ขับรถ ลุยน้ำ Flood Car

ข้อปฏิบัติ ขับรถ น้ำท่วม ขับรถ ลุยน้ำ Flood Car
http://dnaja.com/749/story/เทคนิคขับรถตอนน้ำท่วม.html

Saturday, October 8, 2011

ข้อปฏิบัติ ดูแลรถ หลังน้ำท่วม Car Flood

ข้อปฏิบัติ ดูแลรถ หลังน้ำท่วม Car Flood
ปฏิบัติตัวอย่างไร เมื่อน้ำท่วม
สำรวจเส้นทางก่อนการเดินทางให้ดี หากหลีกเลี่ยงได้ ควรขับรถอ้อมเส้นทางปกติที่มีน้ำท่วมขัง เนื่องจากจะสามารถลดความเสียหายและค่าใช้จ่ายที่อาจจะเกิดขึ้นเพราะน้ำท่วมได้ แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้จริงๆ การขับรถผ่านพื้นที่ที่มีน้ำท่วม มีข้อควรปฎิบัติ ดังนี้

- ปิดแอร์ การทำงานของพัดลมระบายความร้อน และสายพานจากคอมเพสเซอร์แอร์ซึ่งปกติมักจะติดตั้งอยู่ในระดับต่ำ อาจทำให้ตีน้ำเข้าให้ห้องเครื่อง ส่งผลให้เครื่องยนต์ดับ หรือ ตีเศษขยะ ถุงพลาสติก หรือเศษไม้ขึ้นมาทำความเสียหายให้แก่เครื่องยนต์ได้ ทั้งนี้ระบบระบายความร้อนควรอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เพราะการปิดแอร์จะทำให้พัดลมระบายความร้อนจากแอร์หยุดทำงาน หากระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์จุดอื่นไม่สมบูรณ์จะส่งผลเสียหายต่อเครื่องยนต์ได้เช่นกัน

- ใช้รอบเครื่องต่ำ ใช้เกียร์ต่ำ แนะนำให้ใช้เกียร์ 2 สำหรับรถยนต์ทั้งเกียร์ธรรมดาและเกียร์ออโต้ (หรือเกียร์ L สำหรับเกียร์ออโต้บางรุ่น) ค่อยๆ ขับรถช้าๆ อย่าเหยียบเบรก หรือเร่งความเร็วโดยไม่จำเป็น

- อย่าเบิ้ล หรือเร่งเครื่องแรงๆ ผู้ขับหลายๆ ท่านเกรงน้ำจะเข้าเครื่องยนต์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว แรงดันจากท่อไอเสียก็เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับเข้าสู่ท่อไอเสีย การเร่งเครื่องจะสร้างภาระการทำงานให้เครื่องยนต์ ทำให้เกิดความร้อนที่สูงขึ้น และใบพัดลมระบายความร้อนก็จะตีเอาน้ำหรือเศษขยะเข้าใส่ห้องเครื่องอีกเช่นกัน

- ค่อยๆ เบรก ซ้ำๆ บ่อยๆ เมื่อพ้นจากพื้นที่น้ำท่วมขังแล้ว สิ่งอันตรายคือ "เบรกลื่น" วิธีการง่ายๆ ที่จะแก้ไขได้ คือ ค่อยๆ เหยียบเบรก เหยียบย้ำๆ เบาๆ แต่ทำบ่อยๆ การเหยียบเบรกแรงๆ อาจจำให้เกิดการล็อคของระบบเบรก ทำให้ไม่สามารถควบคุมรถได้ นอกจากนี้การเเหยียบเบรกแรงๆ จะทำให้เกิดความร้อนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้จานเบรกคดจากการขยายตัวและหดตัวของเนื้อเหล็กได้

ดูแลรถหลังน้ำท่วม สิ่งที่ควรทำ หลังน้ำท่วม
เมื่อระดับน้ำเริ่มลด หนึ่งในสิ่งแรกที่เจ้าของรถส่วนใหญ่มักนึกถึง คือ "รถจะเป็นอย่างไรบ้าง?" ฟอร์ด ประเทศไทย แนะนำเคล็ดลับง่ายๆ ต่อไปนี้ เพื่อให้มั่นใจว่า รถยนต์คันเก่ง จะสามารถกลับมาแล่นฉิวได้ในเวลาไม่นาน

- เปิดประตูและกระจกออกให้กว้าง เพื่อให้มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และมีอากาศถ่ายเทได้อย่างดีที่สุด เพื่อป้องกันกลิ่นอับชื้น

- อย่าสตาร์ทรถทันที แนะนำให้เปิดฝากระโปรงรถ เพื่อสำรวจให้มั่นใจว่าไม่มีเศษอะไรมาติดอยู่ในตัวเครื่องยนต์ รวมถึงตรวจเช็คชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ในตัวถัง พร้อมทั้งสายไฟในบริเวณต่างๆ ว่ายังอยู่ในสภาพที่สามารถใช้งานได้ หากไม่มั่นใจ แนะนำให้นำรถเข้าศูนย์บริการโดยใช้รถยก เพื่อป้องความเสียหายที่ไม่คาดคิดได้

- อย่าพ่วงไฟ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่มีระบบไฟฟ้าลัดวงจรที่จะก่อให้เกิดความเสียหายกับระบบเครื่องยนต์ และระบบไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

- ทำความสะอาดรถยนต์ โดยเฉพาะภายใน แนะนำให้ทำความสะอาดภายในรถยนต์อย่างละเอียด ตั้งแต่การถอดพรมปูพื้น การซักทำความสะอาดเบาะ (ในกรณีที่เป็นเบาะผ้า) รวมถึงการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคในฟิลเตอร์เครื่องปรับอากาศ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของอากาศที่จะหมุนเวียนในรถเมื่อเราเปิดแอร์

- นำรถเข้าศูนย์ให้เร็วที่สุด ให้ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด รวมถึงการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาแอร์ น้ำมันเครื่อง น้ำมันเฟืองท้าย รวมถึงน้ำมันรถในถัง ที่อาจจะเกิดการเสื่อมคุณภาพจากการถูกน้ำท่วมขังเป็นเวลานานอีกด้วย

http://auto.sanook.com/2927/ดูแลรถหลังน้ำท่วมจากเซียน-...ข้อควรปฏิบัติเมื่อประสบภัย/

Tuesday, October 4, 2011

รวมรถ นายก ปู ยิ่งลักษณ์ 8 คัน 18 ล้าน

รวมรถ นายก ปู ยิ่งลักษณ์ 8 คัน 18 ล้าน
รวมรถ นายก ปู ยิ่งลักษณ์ 8 คัน 18 ล้าน ประเด็นรถยนต์ที่ใช้ของนายกหญิงนั้นกลายเป็นที่สนใจสำหรับคนไทย ด้วยความหวังที่อาจจะอยากรวมทางลัด แต่ถ้าใครชื่นชอบรถยนต์แล้ว ก็คงอยากรู้ว่านายกหญิงเรามีรถยนต์ส่วนตัวอะไรบ้าง และ นี่ คือ 8 รถส่วนตัวจากรายการบัญชีทรัพย์สินของนายกหญิงของคนไทย

1. Mercedes Benz S280
รถคันแรกในบัญชีรายการทรัพย์สินของนายกหญิงไทยนั้น ถ้าให้เดาหลายคนอาจจะพอนึกได้ว่า มันน่าจะเป็นรถหรูค่ายดาวสามแฉก Mercedes Benz S-Class รุ่น S280 ที่ได้มาครอบครองตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 และแม้จะผ่านมานานกว่าเกือบ 10 ปี แต่มันก็มีมุลค่ามากถึง 2.1 ล้านบาทในปัจจุบัน
Mercedes Benz SLK 200 Land Rover
2. Land Rover
เมื่อมีรถหรูมันก็ต้องรถไว้ลุยกันบ้าง และ Land Rover ไม่ทราบรุ่นคันนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งรถในกรุของนายกหญิงไทย ที่ได้มาในปี 2547 ซึ่งปัจจุบัน รถคันนี้ประเมินมูลค่าได้ที่ 650,000 บาท

3. Mercedes Benz SLK 200
รถสปอร์ตสุดเท่ห์ พร้อมความแรงกับเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร และพละกำลัง 184 แรงม้า อาจจะเป็นอะไรที่ถูกใจนายกหญิงขิงคนไทย เพราะนี่คือรถคันที่ 3 ในบัญชีรถยนต์ตัว ซึ่งมีมูลค่ากว่า 1.9 ล้านบาทในปัจจุบัน และซื้อมาเมื่อ ปี 2549
Mercedes Benz SLK 200 Mercedes Benz E-Class
4. Mercedes Benz E240
ให้หลังปีเดียวกัน 2 เดือน นายกหญิงไทย ก็มีม้าใช้คันใหม่ที่ยังประทับใจกับรถยนต์จากค่าย Mercedes Benz รุ่น E 240 ให้ความหรูหราอีกชั้น และมีมูลค่าปัจจุบันถึง 1.3 ล้านบาท

5. Toyota Vios
ใครจะคิดว่าอารมณ์ประหยัดนั้นอยู่กับ นางสาวยิ่งลักษณ์ เพระา รถคันที่ 5 ในบัญชีนั้น เป็น toyota Vios ที่มีมูลค่าเพียง 4.4 อสนบาทเท่านั้น ซึ่งได้มาเมื่อตอนปี พ.ศ. 2551 เอาเป้นว่าถ้าเห็น วีออสเลข 777 เมื่อไร คุณอาจจะขับอยู่ข้างรถนายก ก็ได้
Toyota Vios Porsche Cayman S
6. Porsche Cayman
แพงที่สุดในรถทั้งหมดที่มีและเป็นรถยนต์สปอร์ตพันธุ์แท้ยี่ห้อเดียวในบัญชี ซึ่งมันคือ Porsche Cayman ที่มาพร้อม 295 แรงม้า และการปรับแต่งสุดเบาหวิวให้อารมณ์ สปอร์ตเต็มพิกัด ซึ่งการันตีได้เลยว่า ราคา 5.2 ล้าน กับการบึ่งจากลาดพร้าวไปรัฐสภา สามารถทำได้ไม่เกิน 15 นาที (ถ้ารถไม่ติดนะ)

7. Volkswagen Caravelle
รถตู้สุดหรูเป็นที่หมายปองของหลายๆคน เช่นเดียวกับ การที่ค่ายรถยนต์ชั้นนำจากยุโรป ได้รับความไว้วางใจจากนายกหญิงของคนไทย และ ซื้อมาเมื่อต้นปีที่ผ่าน และมีค่ากว่า 3 ล้านบาท
Volkswagen Caravelle BMW Series 7
8. BMW Series 7 Lise
ในที่สุดเราก็มาถึงรถคันสุดท้ายของนายกฯหญิง นางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา เธอพึงจะเป็นเจ้าของรถ BMW Series 7 ใหม่ล่าสุด รุ่น 730 i ที่พกความหรูมาอย่างเต็มพิกัด ด้วยพละกำลังกว่า 218 แรงม้า และความหรูหราที่เหนือชั้นกว่าจาก BMW ก็ไม่น่าแปลกใจที่มันจะถูกชะตา พณฯ ท่านนายกเรา
รวมรถ นายก ปู ยิ่งลักษณ์ 8 คัน 18 ล้าน
รวมรถ นายก ปู ยิ่งลักษณ์ 8 คัน 18 ล้าน ทั้ง 8 คันนี้เป็น รถยนต์ที่ได้รับการเปิดเผยในบัญชีรายการแสดงทรัพย์สอนที่ยื่นต่อสำนักงาน ปปช. และถูกเปิดเผยออกมา ซึ่งแต่ละคันในโรงรถนั้นล้วยมีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่ที่น่าแปลกใจสุดคืออารมณ์ประหยัดกับ Toyota Vios

รวมรถ นายก ปู ยิ่งลักษณ์ 8 คัน 18 ล้าน
http://auto.sanook.com/item/2925-เปิดกรุ..รถนายกหญิงไทย-8-คัน-18ล้าน.html

Thursday, September 29, 2011

New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท

วันนี้รถยนต์ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้เปิดตัวในประเทศไทยแล้ว ด้วยรูปลักษณ์ใหม่สไตล์สปอร์ตโดดเด่นทันสมัยมาพร้อมกับ กระจังหน้าใหม่ กันชน หน้า-หลัง ใหม่ ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยใหม่ดีไซน์สปอร์ต การออกแบบทั้งภายในห้องโดยสารและรูปลักษณ์ภายนอกเพิ่มความรู้สึกสปอร์ต ห้องโดยสารและที่เก็บสัมภาระท้ายรถกว้างขวางและสะดวกสบายในการขับขี่

- การออกแบบใหม่ ทันสมัยและสง่างาม พร้อมอุปกรณ์ใหม่ เพิ่มความสปอร์ตสะดุดตา ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและให้ความสะดวกสบายในการขับขี่
- ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 559,000 บาท ถึง 704,000 บาท

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นใหม่คันแรกของประเทศไทยที่เข้าหลักเกณฑ์นโยบายการรับเงินช่วยเหลือรถยนต์คันแรกของรัฐบาลได้สูงสุด 100,000 บาท

ฮอนด้า ซิตี้ รุ่นล่าสุดนี้ติดตั้งเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ที่มาพร้อมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดและระบบควบคุมการเปิด-ปิดลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเล็กทรอนิกส์ DBW (Drive by Wire) โดยมีให้เลือก 3 รุ่นหลัก (S, V และ SV) ในราคา 559,000 บาทสำหรับรุ่นเริ่มต้น S ไปจนถึง 704,000 บาทในรุ่นท็อป SV และสำหรับรุ่น S เท่านั้นที่มีระบบเกียร์แบบธรรมดาและอัตโนมัติ

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางสามารถรองรับผู้โดยสาร 5 คนได้อย่างสบาย ห้องเก็บสัมภาระท้ายมีความจุถึง 506 ลิตร กว้างขวางเพียงพอในการบรรทุกสิ่งของที่มีขนาดใหญ่และสัมภาระรูปทรงต่างๆ ได้ตามความต้องการ
New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท
ฮอนด้า ซิตี้ ให้การยึดเกาะถนนเป็นเยี่ยมด้วยระบบกันสะเทือนด้านหน้าแบบแม็กเฟอร์สัน สตรัท อิสระพร้อมเหล็กกันโคลงและระบบกันสะเทือนด้านหลัง ทอร์ชั่นบีม แบบ H-Shape พร้อมเหล็กกันโคลง ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมบังคับรถได้ดีขึ้นและให้ความนุ่มนวลที่มั่นคงในทุกสภาพถนน

นอกจากนี้ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ยังได้ติดตั้งถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น นับเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งในด้านความปลอดภัยให้กับกลุ่มรถขนาด ซับ-คอมแพคท์

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ เพื่อให้ตระหนักถึงการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง คือ ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ECO Indicator ที่จะสว่างขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อขับขี่ในเกณฑ์ประหยัดน้ำมันทำให้ทราบถึงรูปแบบการขับขี่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

รุ่นท็อป SV มาพร้อมกับภายในห้องโดยสารสีดำ ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ ช่องเก็บของใต้เบาะด้านหลัง เบาะนั่งด้านหลังปรับพับ 60:40 พนักพิงศีรษะด้านหลังปรับระดับสูง-ต่ำได้ พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางใกล้-ไกลและสูง-ต่ำ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift) มาตรวัดเรืองแสง Blue Light มาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง คอนโซลด้านหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม กระจกไฟฟ้า ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตซ์ควบคุมด้านคนขับ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้าพร้อมพับไฟฟ้า พนักเท้าแขนด้านหลังพร้อมที่วางแก้วน้ำ 2 ตำแหน่ง พนักเท้าแขนด้านหน้า เครื่องเสียงโมดูล Advanced Audio สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB และช่อง AUX สำหรับต่ออุปกรณ์เสริม ไฟตัดหมอกด้านหน้า ปลายท่อไอเสียโครเมียม ล้ออัลลอย 16 นิ้ว ระบบล็อกประตูอัตโนมัติสัมพันธ์กับความเร็วรถ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณกันขโมย กุญแจรีโมท กระจกไฟฟ้านิรภัยด้านคนขับและไฟเบรกดวงที่สาม สำหรับรุ่น SV จำหน่ายในราคา 704,000 บาท

รุ่น V มาพร้อมกับภายในห้องโดยสารสีเบจ ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน อาทิ เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ ช่องเก็บของใต้เบาะด้านหลัง พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางใกล้-ไกลและสูง-ต่ำ มาตรวัดเรืองแสง Blue Light มาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง คอนโซลด้านหน้าตกแต่งด้วยโครเมียม กระจกไฟฟ้า ระบบเซ็นทรัลล็อกพร้อมสวิตซ์ควบคุมด้านคนขับ กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า เครื่องเสียงโมดูล Advanced Audio สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB และช่อง AUX สำหรับต่ออุปกรณ์เสริม ล้ออัลลอย 15 นิ้ว ระบบล็อกประตูอัตโนมัติสัมพันธ์กับความเร็วรถ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณกันขโมย กุญแจรีโมท กระจกไฟฟ้านิรภัยด้านคนขับและไฟเบรกดวงที่สาม สำหรับรุ่น V จำหน่ายในราคา 646,000 บาท

ส่วนในรุ่น S ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้น มีระบบเกียร์ให้เลือกทั้งแบบระบบเกียร์ธรรมดาและระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ภายในห้องโดยสารสีเบจ เบาะนั่งคนขับปรับระดับสูง-ต่ำได้ พวงมาลัยปรับระดับได้ 4 ทิศทางใกล้-ไกลและสูง-ต่ำ มาตรวัดเรืองแสงแบบสปอร์ต มาตรวัดแสดงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง คอนโซลตกแต่งเมทัลลิก กระจกไฟฟ้า ระบบเซ็นทรัลล็อก กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า เครื่องเสียงโมดูล Advanced Audio ช่องเชื่อมต่อ USB และช่อง AUX สำหรับต่ออุปกรณ์เสริม ฝาครอบล้อ 15 นิ้ว ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer สัญญาณกันขโมย กุญแจรีโมท กระจกไฟฟ้านิรภัยด้านคนขับและไฟเบรกดวงที่สาม ในรุ่นเกียร์ธรรมดาจำหน่ายในราคา 559,000 บาท และ 599,000 บาท สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ
New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท
มีอะไรใหม่ในฮอนด้า ซิตี้

- รูปลักษณ์สปอร์ตมีสไตล์: กระจังหน้าใหม่ กันชนหน้า-หลัง ใหม่ ไฟท้ายดีไซน์ใหม่ และล้ออัลลอยใหม่ดีไซน์สปอร์ต ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ตให้มากยิ่งขึ้น
- การออกแบบที่อินเทรนด์: การออกแบบทั้งภายในและภายนอกที่ช่วยให้ซิตี้ใหม่มีความสปอร์ตและสง่างามยิ่งขึ้น พร้อมให้ประสบการณ์ในการขับขี่ที่จะสร้างความภาคภูมิใจให้กับเจ้าของรถ คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยโครเมี่ยม เพิ่มความทันสมัยให้แก่ห้องโดยสาร
- ถุงลมคู่หน้า Dual SRS และระบบป้องกันล้อล็อก ABS: ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยทั้งในเชิงปกป้องและแก้ไข อาทิ ถุงลมคู่หน้า Dual SRS ดิสก์เบรก ระบบป้องกันล้อล็อก ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และเข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ (Pretensioner Seat Belt) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในซิตี้ใหม่ทุกรุ่น
- มาตรวัดเรืองแสง Blue Light: เพิ่มความล้ำสมัยให้แก่ห้องโดยสาร อีกทั้งยังให้ความโดดเด่น ง่ายต่อการมองเห็น
- ไฟแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ECO Indicator: จะสว่างขึ้นเมื่อขับขี่ในเกณฑ์ประหยัดน้ำมัน ทำให้ทราบถึงรูปแบบการขับขี่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง
- เบาะนั่งลายใหม่ดีไซน์สปอร์ต: ผู้โดยสารสามารถสัมผัสถึงความกว้างขวางสะดวกสบายภายในห้องโดยสารด้วยเบาะนั่งที่ผลิตจากผ้าลายใหม่ดีไซน์สปอร์ต
- 2 สีใหม่: สีแดงคาร์เนเลียน (มุก) และสีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก) เป็นสีใหม่้ให้เลือกนอกเหนือไปจากสีขาวทาฟเฟต้า สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีเทาโพสิชเมทัล (เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก)

ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ มีให้เลือก 6 สีได้แก่ สีแดงคาร์เนเลียน (มุก) และสีน้ำตาลสปาร์คลิ่ง (เมทัลลิก) เป็น 2 สีใหม่ นอกเหนือไปจากสีขาวทาฟเฟต้า สีเงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) สีเทาโพลิชเมทัล(เมทัลลิก) และสีดำคริสตัล (มุก) ขอเชิญสัมผัสและทดลองขับได้ที่โชว์รูมฮอนด้าทั่วประเทศ

รุ่นและราคาของ New Honda City รุ่นปี 2012

Honda City รุ่น S
เกียร์ธรรมดา 559,000 บาท
เกียร์อัตโนมัติ 599,000 บาท

Honda City รุ่น V เกียร์อัตโนมัติ 646,000 บาท

Honda City รุ่น SV เกียร์อัตโนมัติ 704,000 บาท

New Honda City รุ่นปี 2012 ราคา 5.59 - 7.04 แสนบาท
http://www.autospinn.com/2011/09/ราคา-new-honda-city-2012-ฮอนด้า-ซิตี้-ตัวใ/

Wednesday, September 21, 2011

วิธีเลือกซื้อ รถมือสอง รถบ้าน Secondhand Car

วิธีเลือกซื้อ รถมือสอง รถบ้าน Secondhand Car
วิธีเลือกซื้อ รถมือสอง รถบ้าน Secondhand Car เมื่อคุณคิดจะซื้อรถมือสอง ข้อดีของรถมือสอง คือ ราคาถูก แต่ท่านควรตรวจสอบสภาพรถอย่างละเอียด เพราะรถที่ถูกใช้งานมาแล้วล้วนมีความเสี่ยงต่อสภาพความสึกเหรอของเครื่องยนต์ หากจะซื้อรถมือสองควรตรวจสอบอะไรบ้าง

1. รถมือสอง สุมดประวัติประจำรถ
มักไม่ค่อยมี เพราะเจ้าของรถไม่พิถีพิถัน แต่ถ้ามีก็ต้องถือว่ายอดเยี่ยม เพราะสมุดประวัติประจำรถทำให้รู้ว่าเขาตรวจซ่อมอะไรมาบ้าง ตรวจทุกระยะประจำหรือเปล่า

2. เจ้าของรถมือสอง
คุณควรดูเจ้าของรถคันเดิมว่าเขาเป็นใครใช้รถอย่างไรดูแลรถหรือไม่ มีคนกล่าวว่า ไม่ควรซื้อรถต่อจากวัยรุ่น ผู้หญิง และคนชรา เพราะว่าทั้งสามประเภทนี้ ใช้รถอย่างเดียวไม่ค่อยดูแลรถที่ใช้อยู่

3. รถมือสอง มือที่เท่าไหร่
ก็คือรถคันนี้มีคนเป็นเจ้าของมามากน้อยเพียงใด ถ้าผ่านมาแล้วหลายมือก็ควรไม่ซื้อ เพราะรถอาจจะมีปัญหาได้

4. ตัวเลขระยะทางการใช้รถมือสอง
ในการซื้อรถคุณควรดูเลขตัวไมล์โดยปกติการใช้รถไม่ควรจะมากกว่าสามหมื่นกิโลเมตรต่อปี หากมากไปกว่านี้ถือว่ามากอาจทำให้เครื่องยนต์ที่ใช้งานหนัก

5. สภาพภายใน รถมือสอง
หมายถีงเบาะนั่ง ระบบไฟฟ้าต่างๆ ต้องใช้ได้ อย่างไรก็ตาม สภาพดีมาก ดีน้อย ย่อมแล้วแต่ผู้ใช้และการดูแลรักษา

6. สภาพภายนอก รถมือสอง
ควรดูสภาพตัวถังมีผุพัง สีถลอกปอกเปิก กันชนบุบ ตัวถังงอ ประตูตก บ้างหรือไม่

7. รถมือสอง ทำสีมาหรือเปล่า
รถที่ต้องทำสีใหม่ คือ รถที่เก่ามากอายุควรจะเกิน 15 ปีขี้นไป หากทำสีก่อนหน้านั้นก็เท่ากับว่ารถไม่ได้รับการดูแล ในการทดสอบว่าไปทำสีมาหรือเปล่า ก็ลองเคาะเบาๆ ด้วยสันมือ ถ้าเสียงโปร่งก็สีเดิม ถ้าเสียงทึบบ้างโปร่งบ้าง ก็ทำบางส่วน ถ้าทึบหมดก็ทำทั้งคันรถทำสีใหม่สีจะไม่ทน อาจซีด หรือด้านหรือโปร่ง ภายในสองสามปีเป็นอย่างมาก

8. ประวัติรถมือสอง
หากสามารถรู้ประวัติการใช้รถของเจ้าของเดิมมาบ้างก็จะดี เพราะจะได้รู้ว่าเจ้าของรถคนเก่าเคยนำรถไปใช้อย่างไร เช่น ไปชนคนตายมาก่อนหรือเปล่า เคยนำรถไปใช้ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือเปล่า เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงจนน่ากลัวหรือเปล่า ส่งเหล่านี้เราต้องสืบหาเอาเอง

9. รถมือสอง ซื้อรถจากเจ้าของดีกว่าซื้อจากเต้นท์รถหรือพ่อค้าคนกลาง
ถ้าซื้อรถจากพ่อคนกลาง พ่อค้าคนกลางอาจโอนเป็นชื่อของตนเองหรือโอนลอยไว้ พวกนี้จะเอาของดีๆ ออกจากตัวรถก่อนจะขาย ก็ได้ เช่น เครื่องเสียง อุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์ประกอบรถอื่นๆ ที่พอจะนำไปขายแยกได้ ส่วนเต๊นท์รถนั้นก็คือพ่อค้าคนกลางเหมือนกันแต่เจ้าเล่ห์มากกว่า และมักจะขายราคาแพงกว่าท้องตลาดประมาณ 25,000-50,000 บาทต่อคัน เวลาจะซื้อรถคุณควรดูให้มั่นใจเสียก่อน ก่อนจะตัดสินใจซื้อ

10. รถมือสอง หากซื้อรถจากเต้นท์จะต้องนำรถออกทันที
คุณอย่าไปวางเงินแล้ววางใจ ไม่อย่างนั้น เครื่องเสียง ล้อแม็กซ์ ยาง เครื่องยนต์ และอื่น ของคุณอาจจะถูกเปลี่ยนไป โดยที่คุณเองก็อาจทำอะไรก็ไม่ได้

11. รถมือสอง ต้องรีบโอนรถให้เรียบร้อย
ถ้าคุณซื้อรถจากเจ้าของแล้วควรนำรถออกทันที แต่ถ้าซื้อรถจากเต๊นท์จะต้องทำสัญญาซื้อขายให้ดี ขอใบเสร็จรับเงินให้เรียบร้อย ถ้านัดไปโอนทะเบียบภายหลังจะต้องกำหนดเวลาการโอนในสัญญาซื้อขายอย่างแน่นอน

วิธีเลือกซื้อ รถมือสอง รถบ้าน Secondhand Car
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9510000051969

Friday, September 16, 2011

รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car

รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car
อันดับที่ 1 Nissan Navara
นาทีนี้ถ้าถามถึงรถกระบะที่ดีในตลาดทั้งสมรรถนะการบรรทุก การขับขี่ และราคาที่คุ้มค่า Nissan Navara ยังคงเป็นอันดับ 1 ที่เราอยากจะมากล่าวถึงกัน เครื่องยนต์ 2.5 ลิตร สามารถทำอัตราประหยัดได้ดี มีให้เลือกแทบทุกรุ่น แต่ถ้าไม่ตะลุยอะไรมากบอกตามตรงว่าขับเคลื่อน 2 ล้อ ก็เพียงพอแล้ว ที่จะเอาไว้ใช้งาน ราคาตอนนี้เริ่มต้นที่ 5 แสนกลางๆ กับฟังชั่นที่เพิ่มเข้ามาใหม่หลายอย่าง ถือว่าต้องจับตามองเลยทีเดียว

อันดับที่ 2 Toyota Vigo
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเราแนะนำเป็นอันดับ 2 ค่ายนี้นั้นมีข้อดีที่ศูนย์บริการที่ครอบคลุม โดยเฉพาะต่างจังหวัดนั้นเยอะมาก ส่วนสมรรถนะก็พอโอเคแต่ถ้าคุณขับรถเร็ว-เร็วมากอาจจะต้องปรับแต่งหน่อยแต่ก็โอเคพอสมควร
รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car
อันดับที่ 3 New! Ford Ranger
คันนี้ต้องอดใจรอสักนี้แต่รับรองว่า งานนี้ดีแน่กับ Ford ranger ใหม่ ที่มาพร้อมความบึกบึน หลากความสามารถ รูปร่างอเมริกันแท้ แต่คงต้องอดใจรอกันสักประมาณเดือนหน้า ที่คร่าวพอมีข้อมูว่า คนไทยจะได้สัมผัสเครื่อง 2.2 พร้อมเกียร์ 6 สปีด

อันดับที่ 4 New! Chevrolet Colorado
อาจจะต้องรอเหมือนกันสำหรับคันนี้ แต่ก็น่าสนใจมาด้วยเรือนร่างใหม่หมดจด พร้อมเครื่องยนต์ Chevrolet แท้ๆ ในตระกูล Duramax ที่จะมาพร้อม 2.5 และ 2.8 ลิตร ส่วนพละกำลังยังไม่สามารถบอกได้อย่างเป้นทางการ แต่กระบใหม่รุ่นนี้คงต้องรอดูราคา ซึ่งน่าจะยังไม่เกิน 1 ล้านบาทแน่นอน
รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car
อันดับที่ 5 Isuzu Dmax
ยังติดอันดับอยุ่ แต่เราอยากแนะนำให้รอรุ่นใหม่มากกว่า ทว่า Isuzu Dmax นั้นมีข่าวคราวน้อยมาก แต่รถรุ่นปัจจุบันก็สามารถตอบสนองโจทย์ได้ดีพอสมควร ราคาก็โอเค ศูนย์บริการก็เยอะเอาการ เราเลยขอเชียร์ แต่ถ้าไม่รีบอดใจรอรุ่นใหม่ดีกว่า

รถกระบะคุ้มค่า ตามนโยบาย รถยนต์คันแรกลดภาษี Pickup Car
http://auto.sanook.com/item/2859-เปิด-6-กระบะคุ้มค่า-เมื่อจะเดินตาม-รถคันแรก.html

ขั้นตอนการลดภาษีรถคันแรก Car Tax

ขั้นตอนการลดภาษีรถคันแรก Car Tax ขั้นตอนการลดภาษีรถคันแรก Car Tax

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติการลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2554 เป็นต้นไป โดยเงื่อนไขจะคืนภาษีหลังจากซื้อ 1 ปี ซึ่งสามารถขอคืนได้จากฐานคำนวนภาษี ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะได้รับเงินคืนไม่เท่ากัน

ล่าสุดกรมสรรพามิตร เปิดให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มการคืนภาษีโครงการรถยนต์คันแรกแล้ว ประกอบไปด้วย

- แบบฟอร์ม คำขอคืนเงินและเงื่อนไขสาหรับรถยนต์คันแรก คลิก!
- แบบฟอร์ม หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนรถยนต์คันแรกภายใน 5 ปี คลิก!
- ตัวอย่าง แบบฟอร์ม หนังสือแจ้งผลการได้รับสิทธิจากกรมสรรพสามิต คลิก!

ทั้งนี้หลักเกณฑ์การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก คือ

1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555
2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน
3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)
4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)
5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน
6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี ไปแล้ว (เริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป)

แนวทางการดำเนินงาน

1.ผู้ซื้อรถยนต์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้
-หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี
-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
-สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)
2.กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทาง บกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ
3.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน
4.กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครอง รถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่
5.กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป

http://auto.sanook.com/item/2861-รถคันแรก-เปิดให้ดาวน์โหลดแบบฟอร์มแล้ว.html

Wednesday, September 14, 2011

ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก

ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก

ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก ช่วงนี้กระแสนโยบายรถคันแรกมาแรงสุดๆ เราเลยขอเกาะกระแสพาไปชม 6 รถ สุดคุ้มค่ากลุ่มซิตี้คาร์ที่คุณน่าจะเป็นเจ้าของเมื่อมีโอกาสถอยรถ เพื่อขานรับตามนโยบายรถคันแรก

Nissan March (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
เล็กพริกขี้หนูคันนี้คงไม่มีเทียบชั้นในตอนนี้ กับอีโค่คาร์ต้นตำหรับจากค่าย Nissan มาพร้อมเครื่องยนต์ 3 สูบ แถวเรียงมีเกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ CVT ให้เลือกตามสมัยนิยม รถคันนี้ฟังแล้ว 1.2 ซีซี อาจจะดูน้อย แต่ถ้าคุณรักการขับขี่ที่ทรงสมรรถนะ และทรวดทรงที่ดูคลาสสิคคันนร้ตอบโจทย์ ราคา เริ่มที่ 380,000 สูงสุดอยู่ที่ 542,00 บาท

Honda Jazz (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
เพิ่งปรับโฉมไปใหม่สำหรับรถรุ่นนี้ ที่มาพร้มอราคาที่อาจจะดุดัน แต่เข้าข่ายหมดทุกรุ่นเช่นกัน ด้วยออพชั่นถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบเบรค 4 ล้อ กันชนหน้า- หลัง สปอร์ต น่าจะเป็นที่ถูกใจ โดยเฉพาะใครที่เป็นนักขนตัวยก ลองคิดดุว่า Jazz นั้นให้ความคุ้มค่ามากขนาดไหน (ส่วน City ไว้รอดูตอนปรับโฉม 22 ก.ย. นี้ดีกว่านะ)

Toyota Vios (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
คันนี้ขาดไม่ได้ และล่าสุดเพิ่งมีการปรับลุค ที่สำคัญออกง่าย มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น เข้าหลักเกณฑ์นโยบายรถคันแรกเช่นกัน แถมศูนย์บริการก็เยอะ โปรโมชั่นก็ดี น่าจะโอเค สำหรับคนอยากมีรถ และไม่อยากใช้เงินมาก

Mazda 2 (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
เป้อารักษ์และณเดชย์ มากวักมือไหวๆให้ใช้เจ้ามาสด้า ที่เข้าข่ายโครงการรถคันแรกเช่นกัน เครื่อง 1.5 ลิตรของรถรุ่นนี้บอกตามตรงเลยว่าขับมันส์เกินคำบรรยาย ช่วงล่างเฟิร์มพอตัว แถมมีให้เลือกทั้ง 4 และ 5 ประตู ตามความชอบในราคาที่เท่ากัน แถมประกันภัยชั้น 1 ให้อีกด้วย

Ford fiesta (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
ลืมไม่ได้สำหรับค่ายรถยนต์เจ้านี้ โดยมีรุ่น 1.4 ลิตรเข้าหลักเกณฑ์ ที่แม้อาจจะไม่เห็นเทคโนโลยีชั้นนำแต่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรวดทรงเดียวกันมีให้เลือก ทั้ง 4 และ 5 ประตู แถมช่วงล่างเฟิร์มที่สุดก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี ไม่ควรมองข้ามอีกหนึ่งตัว

Chevrolet Aveo (ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก)
อาจจะเก่าไปบ้าง แต่ถ้าชอบรักความประหยัดแบบสุดๆ ก็ต้องคันนี้เลยกับ Chevrolet Aveo ที่เล็กจิ๋วคันนี้ เบ่งพลังด้วยพลังงานทางเลือก E20 แถมยังมาพร้อมการขับขีสไตล์อเมริกันที่มั่นใจได้ทุกถนน

ซิตี้คาร์ City Car คุ้มค่า รับโยบายรถคันแรก
http://auto.sanook.com/item/2851-6-ซิตี้คาร์คุ้มค่า-เมื่อคุณจะมีรถ-คันแรก.html

Tuesday, September 13, 2011

รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท

รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท
รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติการลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 เป็นต้นไป

สำหรับเงื่อนไข รถยนต์คันแรก ที่ ครม. มีมติเห็นชอบโดยจะ เริ่ม 16 ก.ย.54 ถึงวันที่ 31 ธ.ค.55 คืนภาษีหลังจากซื้อ 1 ปี ซึ่งสามารถขอคืนได้จากฐานคำนวนภาษี โดยแต่ละยี่ห้อจะได้รับเงินคืนไม่เท่ากัน

รายละเอียด ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท หลักเกณฑ์การคืนเงินสำหรับรถยนต์คันแรก

1.เป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อที่ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2554 จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2555
2.เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน
3.เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)
4.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)
5.คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน
6.ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
7.ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี
8.การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปี ไปแล้ว (เริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 เป็นต้นไป)

แนวทางการดำเนินงาน ลดภาษีรถคันแรก 100,000 บาท

1. ผู้ซื้อรถยนต์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2554 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ต้องยื่นคำขอคืนเงินกับกรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ พร้อมเอกสารหลักฐาน ดังนี้
-หนังสือยินยอมสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปี
-สำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านของผู้ซื้อ
-สำเนาหนังสือสัญญาเช่าซื้อ (ในกรณีเช่าซื้อ)

2. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่มีหนังสือถึงกรมการขนส่งทาง บกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เพื่อขอตรวจสอบการครอบครองรถยนต์คันแรก และแจ้งการสละสิทธิ์การโอนภายใน 5 ปีของผู้ซื้อ

3. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบและบันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ลงในคอมพิวเตอร์และในสมุดคู่มือการจดทะเบียน

4. กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งจังหวัดส่งหนังสือรับรองการครอบครอง รถยนต์คันแรก และสำเนาคู่มือการจดทะเบียนที่บันทึก "ห้ามโอนภายใน 5 ปี" ให้กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่

5. กรมสรรพสามิตหรือสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ซื้อตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป

http://news.sanook.com/1054965-เปิดเงื่อนไขรถยนต์คันแรก-มีผล-1-ต.ค.-54.html

Thursday, September 8, 2011

รายการตรวจสภาพรับรถใหม่ ขั้นตอนการตรวจรับรถใหม่ป้ายแดง New Car

รายการตรวจสภาพรับรถใหม่ ขั้นตอนการตรวจรับรถใหม่ป้ายแดง New Car รายการตรวจสภาพรับรถใหม่ ขั้นตอนการตรวจรับรถใหม่ป้ายแดง New Car
1.ตัวถัง
1.1 ดูขอบ, สันข้างรถว่าแนวยังตรงดีอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะระหว่างประตู และตัวถัง
1.2 เปิด/ปิดประตูครบทุกบาน และกระโปรงหน้า-หลัง ได้ดี /ล็อคเด็กประตูหลัง
1.3 มีสนิมบริเวณขอบประตูแต่ละบานหรือไม่
1.4 เห็นรอยสีใหม่พ่นทับสีเก่าในบริเวณขอบประตูหรือไม่ (ถ้ามีขอบยางกันกระแทกลองแง้มดู)

2. กระจก
2.1 กระจกทุกบานขึ้นลงได้สุดหรือไม่ (ถ้าเป็นกระจกไฟฟ้าควรดูเป็นพิเศษ)
2.2 กระจกมีรอยร้าวกกะเทาะหรือไม่อาจจะนําไปสู่การแตกง่ายในอนาคต
2.3 ลวดละลายฝ้ากระจกหลังยังใช้ได้อยู่หรือไม่
2.4 ยางปัดนํ้าฝนต้องเปลี่ยนหรือไม่
2.5 ที่ปัดนํ้าฝนยังใช้งานได้ดี
2.6 ที่ฉีดนํ้าล้างกระจกยังใช้งานได้ดี
2.7 กระจกมองข้างปรับได้ตามปกติ / พับยังไง ให้แสดงให้ดู

3. ยางและล้อ
3.1 เนื้อยางยังนิ่มอยู่พอสมควร / ปียางที่ผลิต / รอยวิ่งของยาง
3.2 ล้อมีรอยบิ่นหรือไม่ / Mag เก่า ใหม่
3.3 แม่แรง / ล้ออะไหล่ / ประแจ / เครื่องมือประจำรถครบหรือไม่

4. กลไกขับเคลื่อน
4.1 เครื่องยนต์เดินเรียบ
4.2 ความร้อนไม่ขึ้นสูง
4.3 เข้าเกียร์ได้ครบ
4.4 เกียร์ไม่หลวม, ไม่มีเสียงดังเวลาเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง
4.5 พวงมาลัยไม่มีเสียงดังเวลาเลี้ยว
4.6 เวลาปล่อยมือแล้วรถไม่เอียง
4.7 คลัทช์ไม่แข็งหรือระยะตื้นจนเกินไป
4.8 ที่เปิดฝาเติมน้ำมันเปิดตรงไหน-สาธิตให้ดูด้วย

5. ห้องเครื่อง
5.1 น้ำมันเบรค/ น้ำมันเครื่อง/ น้ำมันเกียร์/ น้ำมันพวงมาลัยพาวเวอร์ / สายพานต่างๆ น้ำหม้อน้ำ ระดับน้ำฉีดกระจก/ ถามให้รู้ว่าอยู่ตรงไหน
5.2 สายพานต่างๆ น้ำหม้อน้ำ ระดับน้ำฉีดกระจก/ ลอง Start เครื่องฟังเสียงดู เร่งเครื่อง
5.3 หมายเลขเครื่อง / หมายเลขตัวถัง / วันผลิต
5.4 แผ่นกันความร้อนมีให้หรือไม่-ราคาเท่าไร

6. ระบบปรับอากาศ
6.1 แอร์เย็น / ปรับอุณหภูมิได้

7. ภายใน
7.1 หน้าปัดเป็นรอยขูดขีดหรือไม่ / หน้าปัดหลักๆยังใช้งานได้ครบหรือไม่ เช่น เข็มความเร็ว เข็มนํ้ามัน เข็มไมล์ ไฟเบรคมือ เข็มความร้อน
7.2 เบาะปรับได้ท่าทีถนัด / เข็มขัดนิรภัย ลองปรับ+กระตุก
7.3 กระจกมองหลังและข้างปรับได้ทัศน์วิสัยที่ดี/ กระจกข้างปรับได้ ลองพับ /Central Lock
7.4 ยางปูพื้นติดรถมาแบบไหน
7.5 อุปกรณ์ภายในรถ
7.5.1 วิทยุติดรถ
7.5.2 ทดสอบแอร์ ลองแรงลมทุกระดับ ที่วัดอุณภูมิภายใน-นอก /กดแตร
7.5.3 ที่ปัดน้ำฝน INT
7.5.4 ไฟเบรคดวงที่ 3
7.5.5 ไล่ฝ้าหลัง ข้าง ลองกดแล้วจับดูว่าร้อนไหม…..
7.5.6 หมุนพวงมาลัยจนสุด 2 ด้านมีเสียงดังหรือไม่
7.5.7 ไฟหน้า ปรับ ไกล-ใกล้ สูง-ต่ำ
7.5.8 วิทยุ CD ลองฟังแยกทุกจุดว่า OK
7.5.9 กระจกไฟฟ้า 4 บาน กระจกข้างปรับได้ ลอง
7.5.10 สัญญานเตือนไฟเปิด
7.5.11 สัญญานเตือนประตู/เปิด
7.5.12 สัญญานเตือนคาดเข็มขัด
7.5.13 สัญญานเตือนเบรกมือ
7.5.14 นาฬิกา
7.5.15 กุญแจ/รีโมต/Central Lock
7.5.16 ไฟแสดงตำแหน่งเกียร์
7.5.17 ที่เปิดกระโปรง หน้า หลัง ฝาน้ำมันอยู่ตรงใหน
7.5.18 ช่องเก็บของต่างๆเปิด-ปิด ได้ดีหรือไม่

8. ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง
8.1 ไฟสูง ไฟหน้า และไฟหรี่ เปิดติด ปิดดับ สว่างชัดเจน
8.2 ไฟเลี้ยวใช้ได้ทั้ง 2 ข้าง
8.3 ไฟเบรคใช้งานได้
8.4 ไฟถอยหลังใช้งานได้

9. เอกสารต่างๆ
9.1 สมุดทะเบียน
9.2 ใบโอนรถ
9.3 เอกสารประกันภัย / พรบ.
9.4 ใบเสร็จรับเงินค่าdown
9.5 ใบเสร็จค่ามัดจำป้ายแดง 3000 บาท
9.6 ป้ายแดงมีตรา ขส.
9.7 คู่มือรถ
9.8 เอกสารการรับประกันอุปกรณ์รถ
9.9 เอกสารการรับประกันเช็คระยะฟรี
9.10 เอกสารการรับประกันอุปกรณ์ตกแต่ง

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=53788
http://122.155.16.103/webboard/viewtopic.php?f=2&t=10200&start=0

Sunday, September 4, 2011

วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง Secondhand Car

วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง Secondhand Car วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง Secondhand Car
วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง Secondhand Car รายการที่ควรตรวจเช็ค เมื่อจะซื้อรถมือสอง หรือแม้แต่รถใหม่

1. ตัวถัง (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
1.1 ดูขอบ, สันข้างรถว่าแนวยังตรงดีอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะระหว่างประตู และตัวถัง
1.2 เปิด/ปิดประตูครบทุกบาน และกระโปรงหน้า-หลัง ได้ดี
1.3 มีสนิมบริเวณขอบประตูแต่ละบานหรือไม่ แค่ไหน
1.4 เห็นรอยสีใหม่พ่นทับสีเก่าในบริเวณขอบประตูหรือไม่ (ถ้ามีขอบยางกันกระแทกลองแง้มดู)
1.5 ก้มดูใต้บังโคลนล้อ, ใต้ประตู ว่ามีสนิมขึ้น ผุ หรือไม่ มากน้อยเพียงใด
1.6 ลองใช้เล็บเคาะตัวถังดูรอบๆบริเวณไหนเสียงไม่ใสเหมือนบริเวณอื่น อาจมีการทำสีมาแล้ว
1.7 ดูสีตัวถังรอบๆว่ามีการบวมปูดจากสนิมหรือไม่

2. กระจก (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
2.1 กระจกทุกบานขึ้นลงได้สุดหรือไม่ (ถ้าเป็นกระจกไฟฟ้าควรดูเป็นพิเศษ)
2.2 กระจกมีรอยร้าวกะเทาะหรือไม่อาจจะนำไปสู่การแตกง่ายในอนาคต
2.3 ฟิล์มติดกระจกใกล้หมดอายุหรือยัง
2.4 ลวดละลายฝ้ากระจกหลังยังใช้ได้อยู่หรือไม่
2.5 ยางขอบกระจก ยังใช้ได้อยู่หรือไม่
2.6 ยางปัดน้ำฝนต้องเปลี่ยนหรือไม่
2.7 ที่ปัดน้ำฝนยังใช้งานได้ดี
2.8 ที่ฉีดน้ำล้างกระจกยังใช้งานได้ดี
2.9 กระจกมองข้างปรับได้ตามปกติ

3. ยางและล้อ (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
3.1 เปลี่ยนยางมาครั้งล่าสุดเมื่อกี่เดือน/ปีมาแล้ว
3.2 ดอกยางยังลึกอยู่ประมาณ 2 ม.ม.ขึ้นไป
3.3 เนื้อยางยังนิ่มอยู่พอสมควร
3.4 ยางมีการปะหรือไม่
3.5 ยางมีการบวมหรือไม่
3.6 ล้อมีรอยบิ่นหรือไม่

4. กลไกขับเคลื่อน (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
4.1 เครื่องยนต์เดินเรียบ
4.2 ความร้อนไม่ขึ้นสูง
4.3 เข้าเกียร์ได้ครบ
4.4 เกียร์ไม่หลวม, ไม่มีเสียงดังเวลาเข้าเกียร์ใดเกียร์หนึ่ง
4.5 พวงมาลัยไม่มีเสียงดังเวลาเลี้ยว
4.6 เวลาปล่อยมือแล้วรถไม่เอียง
4.7 คลัชไม่แข็งหรือระยะตื้นจนเกินไป (ใกล้หมด)
4.8 ท่อไอเสียผุหรือไม่
4.9 โช็คอัพไม่กระด้าง (สังเกตจากเวลาขับ)

5. ระบบหล่อลื่น (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
5.1 น้ำมันเครื่องเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร
5.2 น้ำมันเกียร์เปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร
5.3 น้ำมันเบรคเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร
5.4 น้ำมันเฟืองท้ายเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร
5.5 น้ำมันเพวงมาลัยเปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อไร

6. ระบบปรับอากาศ (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
6.1 แอร์เย็น / ปรับอุณหภูมิได้
6.2 น้ำยาแอร์เปลี่ยนครั้งสุดท้าย, ล้างตู้แอร์ครั้งสุดท้ายเมื่อใด

7. แบตเตอร์รี่เปลี่ยนครั้งสุดท้ายเมื่อใด (ลูกเป็นพันนะครับ) (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)

8. ภายใน (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
8.1 เบาะยังคงสภาพดีอยู่หรือไม่ (สะท้อนถึงสภาพการใช้งาน)
8.2 ยางหุ้มพวงมาลัยสภาพดีอยู่หรือไม่
8.3 หน้าปัดหลักๆยังใช้งานได้ครบหรือไม่ เช่น เข็มความเร็ว เข็ม เข็มน้ำมัน เข็มไมล์ ไฟเบรคมือ
8.4 เบาะปรับได้ท่าทีถนัด
8.5 กระจกมองหลังและข้างปรับได้ทัศน์วิสัยที่ดี
8.6 ยางปูพื้นติดรถมาแบบไหน (ดีๆก็เกือบพันเหมือนกัน)
8.7 วิทยุติดรถ ราคาสมเหตุผล
8.8 มีอุปกรณ์อื่นๆประกอบหรือไม่ เช่นที่ล็อคเกียร์ กันขโมย (เทียบกับราคา)

9. ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
9.1 ไฟสูง ไฟหน้า และไฟหรี่ เปิดติด ปิดดับ สว่างชัดเจน
9.2 ไฟเลี้ยวใช้ได้ทั้ง 2 ข้าง
9.3 ไฟเบรคใช้งานได้
9.4 ไฟถอยหลังใช้งานได้

10. เอกสารต่างๆ (วิธีเลือกรถมือสอง ซื้อรถมือสอง ตรวจเช็ครถมือสอง)
10.1 สมุดทะเบียน, ใบโอนรถ และบัตรประชาชนมีชื่อและลายเซ็นตรงกัน
10.2 มีการเสียภาษีรถประจำปีถูกต้องไม่ขาด (ระวังค่าปรับ)
10.3 มีการจ่ายประกันภัยบุคคลที่สาม ไม่ขาด (ระวังค่าปรับ)
10.4 ถ้ามีประกันประเภทอื่น ดูว่าเหลืออีกกี่เดือน

http://www.aeracingclub.net/forums/index.php?topic=2006.0
http://www.rakcar.com/ForumId-495-ViewForum.aspx
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...

Car รถ รถยนต์ Motorcycle มอเตอร์ไซค์ จักรยานยนต์ Bike Bicycle จักรยาน Second Hand Blog Archive